Page 121 - รายงานการศึกษาวิจัย เรื่อง ปัญหาเยาวชนหญิงที่ตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควรกับมิติสิทธิมนุษยชน ฉบับสมบูรณ์
P. 121

ตั้งครรภ์ของเยำวชน ท ำให้นักเรียนหญิงที่ตั้งครรภ์รู้สึกอับอำยและทนไม่ได้กับสำยตำคนมอง

                            อย่ำงดูหมิ่นภำยในสถำนศึกษำ จึงต้องลำออกจำกโรงเรียน
                       จำกกำรศึกษำพบว่ำ ทั้งมำยำคติและกำรเข้ำไม่ถึงสิทธิในกำรได้รับข้อมูลข่ำวสำรและกำรศึกษำ

               เมื่อเยำวชนหญิงตั้งครรภ์ขึ้นมำ ไม่เพียงบำงรำยจะขำดสิทธิในกำรได้รับควำมคุ้มครองด้ำนกำรศึกษำ และ

               พลำดโอกำสที่จะเรียนจบ มีงำนท ำเพื่อเลี้ยงดูลูกให้มีคุณภำพชีวิตที่ดี  ขณะเดียวกันกระบวนกำรในกำร

               ตัดสินใจทั้งยุติและด ำรงครรภ์ต่อของเยำวชน ไม่ได้เป็นสิทธิหรืออ ำนำจของเยำวชนเอง แต่เป็นของ

               ผู้ปกครองของเยำวชน ข้อมูลในกำรตัดสินใจจึงเป็นของผู้ปกครองเท่ำนั้น ซึ่งปัจจัยในกำรตัดสินใจไม่ใช่
               ควำมรู้เรื่องสุขภำวะและสิทธิอนำมัยเจริญพันธุ์ แต่เป็นควำมเชื่อมำยำคติเรื่องวิญญำณจำกกำรท ำแท้ง

               ควำมยำกจน ปัญหำทำงเศรษฐกิจ ควำมอับอำยผู้คนในสังคม กำรไม่ได้รับกำรรับผิดชอบจำกชำยที่ท ำให้

               ตั้งครรภ์ ที่ท ำให้ตัดสินใจแทนเยำวชนหญิงให้ด ำรงครรภ์ต่อ เห็นได้ชัดว่ำ หลำยคนที่เผชิญปัญหำตั้งครรภ์

               ไม่พร้อม ไม่รู้ทั้งเรื่องสิทธิที่ควรได้รับจำกทั้งรัฐและสังคม ทั้งกำรรองรับของสถำนศึกษำ ที่บำงแห่งเป็น

               สถำนศึกษำนอกกรอบที่รองรับเยำวชนตั้งครรภ์ไม่พร้อม จัดรูปแบบกำรศึกษำนอกเวลำปกติเพื่อให้
               สอดคล้องกับวิถีชีวิตนักเรียนซึ่งรวมไปถึงเยำวชนหญิงตั้งครรภ์ แต่โรงเรียนในลักษณะเช่นนี้มีจ ำนวนไม่

               เพียงพอต่อปริมำณเยำวชนหญิงตั้งครรภ์ที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และต้องออกจำกโรงเรียน เช่นเดียวกัน หลำยคน

               ไม่ทรำบถึงบริกำรของรัฐเกี่ยวกับสวัสดิกำรที่ให้ควำมช่วยเหลือแก่เยำวชนที่ตั้งครรภ์ไม่พร้อมที่ประสบ

               ปัญหำเรื่องเศรษฐกิจ ต้องกำรเงินช่วยเหลือในส่วนของกำรดูแลฝำกครรภ์ หรือบ้ำนพักพิงเพื่อรอคลอดที่
               เข้ำใจและปลอดภัย และกำรขอรับบริกำรเรื่องมอบลูกให้เป็นบุตรบุญธรรมในรำยที่ไม่ได้รับกำรสนับสนุน

               จำกทำงครอบครัว รวมไปถึงองค์กรพัฒนำเอกชนด้ำนสังคมและมนุษย์ ซึ่งองค์กรและสถำนศึกษำนอก

               กรอบเอง ก็ต้องมีควำมรู้ควำมเข้ำใจเรื่องสิทธิมนุษยชน มุมมองเรื่องเพศศึกษำในเชิงบวก ปรำศจำก

               มำยำคติและกำรตัดสินผู้อื่น ซึ่งควำมรู้ควำมเข้ำใจในเรื่องสิทธิมนุษยชนของเจ้ำหน้ำที่องค์กรพัฒนำเอกชน
               ยังมีควำมแตกต่ำงกันในหลำยระดับขึ้นอยู่บริบทของกำรท ำงำนที่คลุกคลีอยู่กับพื้นที่หรือผู้รับบริกำร ซึ่งยัง

               ต้องกำรเติมเต็มองค์ควำมรู้เรื่องสิทธิอนำมัยเจริญพันธุ์

                       กล่ำวโดยสรุป ในด้ำนสังคม ไม่จ ำเป็นที่จะต้องเป็นภำระหน้ำที่ขององค์กรหรือหน่วยงำนใด หรือ

               ต้องเป็ นหน้ำที่เฉพำะทำงด้ำนกฎหมำย ส ำนักงำนต ำรวจแห่งชำติ กระทรวงสำธำรณสุข

               กระทรวงศึกษำธิกำร กระทรวงกำรพัฒนำสังคมและควำมมั่นคงของมนุษย์ เพียงแต่ควรมีองค์กรใดองค์กร
               หนึ่งเป็นแกนน ำในกำรปูแนวทำง สร้ำงนโยบำย มำตรกำรและยุทธศำสตร์ในเชิงบูรณำกำร ที่ร่วมมือกับ

               กระทรวงและองค์กรต่ำงๆ รวมถึงชุมชนและเยำวชนหญิงตั้งครรภ์เอง ในกำรคุ้มครองสิทธิมนุษยชน สิทธิ

               อนำมัยเจริญพันธุ์ของเยำวชนหญิงตั้งครรภ์ทั้งที่พร้อมและไม่พร้อม










                                                                                                      ๑๒๐
   116   117   118   119   120   121   122   123   124   125   126