Page 14 - พระมหากษัตริย์กับงานสิทธิมนุษยชน
P. 14

แนวคิดเกี่ยวกับสิทธิมนุษยชน



                      สิทธิมนุษยชน (Human Rights) เป็นแนวคิดที่มีรากฐานมาจากความเชื่อ ปรัชญา และ
               คำาสอนทางศาสนา ศีลธรรม จริยธรรมของสังคมและวัฒนธรรมต่างๆ ในโลกที่เชื่อว่ามนุษย์ทุกคน
               มีสิทธิที่จะมีชีวิตอยู่ มีอิสระทางความคิด และมีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์โดยเท่าเทียมกัน แนวคิดเรื่อง

               สิทธิมนุษยชนจึงมีมาแต่ครั้งสมัยโบราณ ในสมัยกรีกและสมัยโรมันพบว่า ได้มีการแสดงความคิดเห็น
               เกี่ยวกับสิทธิของบุคคลที่โน้มเอียงไปทางการจำากัดอำานาจของกษัตริย์ หรือชนชั้นปกครองซึ่งเห็นกันว่า
               มีมากเกินไป หลักธรรมในพระพุทธศาสนานั้น พระพุทธเจ้าได้สอนให้มนุษย์เคารพในเรื่องสิทธิมนุษยชน

               เลิกการดูหมิ่นเหยียดหยามกันโดยการถือเอาวรรณะเป็นเครื่องแบ่งชนชั้นของมนุษย์ ดังปรากฏ
               คำาสอนในสีลวีมังสชาดก (ปัจเจกนิบาตชาดก สุตตันตปิฎก เล่ม ๒๗ หน้า ๑๗๕) ที่มีคำาของ
               พระพุทธองค์ “ชาติและวรรณะเป็นของเปล่า ศีลต่างหากที่เป็นของสูงสุด ถ้าไม่มีศีลแล้ว สุตะจะไม่มี
               ประโยชน์อะไร” และในกัณณกัตถลศูทร (มัชฌิมนิกาย มัชฌิมปัณณาสุตปิฎก เล่ม ๑๓ หน้า ๕๑๗)

               ทรงตรัสว่า “วรรณะทั้ง ๔ คือ กษัตริย์ พราหมณ์ แพศย์ และศูทร ถ้ามีคุณธรรมแล้วก็จะเชื่อว่า
               เสมอกัน” เป็นต้น

                      ในประเทศไทยนั้นแนวคิดเกี่ยวกับสิทธิมนุษยชนได้เกิดขึ้นมาช้านานแล้วตั้งแต่สมัยสุโขทัย

               ในหลักศิลาจารึกของพ่อขุนรามคำาแหงมหาราชซึ่งทรงจารึกไว้เมื่อปี พุทธศักราช ๑๘๓๕ เป็นหลักฐาน
               สำาคัญที่บ่งชี้ได้ชัดเจนถึงสิทธิมนุษยชน ดังเช่นคำาจารึกว่า



              14     พ ร ะ ม ห า ก ษั ต ริ ย์ กั บ ง า น สิ ท ธิ ม นุ ษ ย ช น
   9   10   11   12   13   14   15   16   17   18   19