Page 3 - บทบาทคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ
P. 3
บทบาทของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ
-- เสน่ห์ จามริก --
บทเกริ่นน า
ก่อนอื่น ในนามของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติแห่งประเทศไทย ผมใคร่ขอร่วมแสดง
ความขอบคุณต่อมูลนิธิฟรีดริช เนามัน ที่ได้พยายามส่งเสริมการแลกเปลี่ยนซึ่งกันและกันในประเด็น
สิทธิมนุษยชนเสมอมา และเปิดโอกาสให้เราเข้าร่วมในเวทีสหภูมิภาคครั้งนี้ ในฐานะที่เป็นน้องใหม่ที่มี
ภูมิหลังและประสบการณ์เกี่ยวกับปัญหาสิทธิมนุษยชนค่อนข้างจะแตกต่างออกไป เราคาดหวังว่าใน
กระบวนการหารือร่วมกันนี้ ไม่เพียงแต่เราจะได้เรียนรู้จากผู้อื่นเท่านั้น แต่ผู้อื่นจะได้รับฟังจากเราด้วย
และจากกระบวนการเรียนรู้จากกันและกันเช่นนี้ เราจะได้บรรลุถึงแนวทางรูปธรรมในการร่วมมือ
ประสานงาน ซึ่งมีการคุ้มครองส่งเสริมสิทธิมนุษยชนเป็นเป้าหมายร่วมกัน
ในการอภิปรายเกี่ยวกับบทบาทของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาตินั้น นับเป็นสิ่งส าคัญ
ที่เราจะต้องตระหนักถึงประเด็นพื้นฐานสามประการที่พึงเข้าใจร่วมกัน ประเด็นเหล่านี้ยังสัมพันธ์ซึ่งกัน
และกันด้วย ประการแรก ก็คือ ค าถามเกี่ยวกับธรรมชาติและความเป็นจริงของสิทธิมนุษยชนเอง ใน
เรื่องนี้ แม้ว่าเราจะต้องยึดหลักความเป็นสากลก็ตาม แต่สิทธิมนุษยชนนั้นเกี่ยวข้องกับการอ้างสิทธิหรือ
แนวคิดแนวปฏิบัติเชิงศีลธรรม ที่ประชาชนได้สร้างขึ้น เพื่อสร้างความชอบธรรมให้กับ ผลประโยชน์
เฉพาะต่าง ๆ ซึ่งด ารงอยู่ในสภาพการณ์ทางประวัติศาสตร์ สังคมและเศรษฐกิจเฉพาะกาลเทศะหนึ่ง ๆ
หรือหากจะกล่าวโดยนัยข้อเท็จจริง อาจกล่าวได้ว่า สิทธิมนุษยชนเป็นผลโดยตรงจากความมุ่งหวังและ
1
การต่อสู้ของประชาชน และไม่ได้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นในวัฒนธรรมหรือจารีตใดเป็นการจ าเพาะเลย แท้ที่
จริง นี่ก็คือสิ่งที่เกิดขึ้นในการปฏิวัติเสรีนิยมครั้งใหญ่ทั้งหลายเมื่อสองศตวรรษที่ผ่านมา บนเส้นทางของ
การเข้าสู่ภาวะสมัยใหม่ของตะวันตก และส่งผลจุดประกายอุดมคติแห่งเสรีภาพและประชาธิปไตยไปทั่ว
โลก
ในประการที่สอง ความจริงธรรมดาสามัญเกี่ยวกับสิทธิมนุษยชนดังกล่าวนี้ยังหมายความว่า
ควบคู่ไปกับความเป็นสากลนั้น สิทธิและเสรีภาพต่าง ๆ ตลอดจนพันธกรณีทั้งหลายยังต้องแพร่ขยาย
และเชื่อมโยงซึ่งกันและกัน ในรูปแบบและสาระที่หลากหลายแปรเปลี่ยนไปตามสภาพการณ์ทาง
ประวัติศาสตร์ สังคม และเศรษฐกิจหนึ่ง ๆ ความข้อนี้ย่อมเห็นได้ชัดจากเครื่องมือระหว่างประเทศด้าน
สิทธิมนุษยชน ซึ่งมีการตราเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ โดยสหประชาชาติในส่วนที่มีประชาธิปไตยเป็นพลังผลักดัน
2
ที่กล่าวมานี้ย่อมเป็นกระบวนการสืบเนื่องไม่จบสิ้น ดังที่เมื่อเร็ว ๆ นี้ สมัชชาใหญ่แห่งองค์การ
สหประชาชาติก็ได้ตราปฏิญญาสหัสวรรษ 2000 ขึ้น โดยสรุปรวมสภาพปัญหาของมนุษย์ในหลากหลาย
แง่มุมส าหรับเป็นฐานคิดร่วมกันระดับโลก นับเป็นการขยายขอบข่ายและมุมมองในการส่งเสริมคุ้มครอง
สิทธิมนุษยชนออกไปอีก โดยรวมประเด็นด้านการพัฒนา ความยากจน และสิ่งแวดล้อมเข้าไว้ด้วย
๑