Page 132 - รายงานข้อเสนอแนะเชิงนโยบายของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติต่อกรณีข้อร้องเรียนของเครือข่ายประชาชนภาคตะวันออก
P. 132

รายงานข้อเสนอแนะเชิงนโยบายของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ
            106 ต่อกรณีข้อร้องเรียนของเครือข่ายประชาชนภาคตะวันออก




                  ได้มีการนำาเสนอไปยังสำานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาแล้ว  ร่างพระราชบัญญัตินี้ นอกจากจะ

                  ยึดหลักการ Polluter Pays Principle (PPP) คือ ผู้ก่อมลพิษเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการบำาบัด
                  แล้ว  สาระสำาคัญของร่างพระราชบัญญัตินี้ที่ต้องดำารงไว้ คือ การให้ความสำาคัญกับการมีส่วนร่วม

                  ของทุกภาคส่วน  ทั้งผู้ประกอบการ ชุมชนท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการเข้าถึงแหล่งเงิน
                  ที่ได้จากการจัดเก็บภาษี  และมีกลไกการบริหารจัดการเงินกองทุนอย่างมีธรรมาภิบาล เพื่อนำาไป

                  ใช้จ่ายในการป้องกันและเยียวยาปัญหาสิ่งแวดล้อมและคุณภาพชีวิตให้ตรงตามวัตถุประสงค์และ
                  เป้าหมายของกองทุน

                                        ๑.๓)  กฎหมายว่าด้วยการมีส่วนร่วมของประชาชนในกระบวนการ
                  นโยบายสาธารณะ  โดยควรมีสาระสำาคัญเกี่ยวกับการกำาหนดหลักเกณฑ์และวิธีการที่ชัดเจน

                  เกี่ยวกับการมีส่วนร่วมของประชาชนในเรื่องการจัดการ การบำารุงรักษา และการใช้ประโยชน์จาก

                  ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม  การดำาเนินโครงการหรือกิจกรรมที่อาจมีผลกระทบต่อชุมชน
                  การวางแผนการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม  การจัดทำาบริการสาธารณะ  ตามบทบัญญัติมาตรา
                  ๖๖ มาตรา ๖๗ และมาตรา ๘๗ (๑) และ (๒) ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย  พุทธศักราช

                  ๒๕๕๐  และให้หน่วยงานของรัฐส่งเสริมสนับสนุนการมีส่วนร่วมของประชาชนในกระบวนการนโยบาย

                  สาธารณะให้สอดคล้องตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญดังกล่าว
                                   ๒)  ทบทวน ปรับปรุง/แก้ไข เพิ่มเติม บทบัญญัติแห่งพระราชบัญญัติส่งเสริม

                  และรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๓๕  ให้สอดคล้องกับ มาตรา ๖๗ วรรคสอง ของ
                  รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย  พุทธศักราช ๒๕๕๐ เช่น แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา ๔๖ แห่งพระราช

                  บัญญัติฉบับดังกล่าวที่ยังมิได้บัญญัติถึงความเชื่อมโยงในเรื่องการให้ความเห็นประกอบขององค์การ
                  อิสระด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ  ตามนัย มาตรา ๖๗ วรรคสอง ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักร

                  ไทย  พุทธศักราช ๒๕๕๐ กับอำานาจในการประกาศกำาหนดประเภท และขนาดของโครงการหรือ
                  กิจการของส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ หรือเอกชนที่มีผลกระทบสิ่งแวดล้อม ซึ่งต้องจัดทำารายงาน

                  การวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม เป็นต้น


                             ๕.๓.๔ รัฐบาลควรทบทวนการให้ความสำาคัญต่อความสำาเร็จในการพัฒนาประเทศ โดย
                  ใช้ตัวชี้วัดผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (Gross Domestic Product : GDP) ซึ่งเป็นการเน้นรายได้

                  ทางเศรษฐกิจ โดยไม่คำานึงถึงทุนด้านอื่นๆ โดยเฉพาะทุนทางทรัพยากรธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม
                  คุณภาพชีวิต จึงจำาเป็นต้องปรับทิศทางการพัฒนาประเทศให้เกิดการพัฒนาที่สมดุลและยั่งยืน

                  โดยการบูรณาการการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติกับการพัฒนาเศรษฐกิจ เพื่อมิให้
                  เกิดผลกระทบด้านสุขภาพอนามัย สวัสดิภาพ หรือคุณภาพชีวิตของประชาชน
   127   128   129   130   131   132   133   134   135   136   137