Page 86 - สิทธิมนุษยชน : รวมบทความ ศ.เสน่ห์ จามริก

สิทธิมนุษยชน รวมบทความ ศ.เสน่ห์ จามริก

ระบบทุนไทยรูปแบบใหม่ โดยแยกตัวเป็นเอกเทศจากระบบ “ทุนขุนนาง” อย่างที่เคย
เป็นมาในอดีต และดังนั้น จึงเป็นพรรคการเมืองที่มีทิศทางนโยบายเศรษฐกิจ

การเงินชัดเจน และเป็นพลวัตพร้อมด้วยระบบการจัดสรรอิทธิพลผลประโยชน์
เฉพาะของตนเอง ในแบบแผนที่เป็นสากล สอดคล้องต่อกระแสโลกาภิวัตน์ขึ้น
โดยลำดับ หรืออีกนัยหนึ่งกระบวนการผนวกเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจโลก

โดยนัยของกระแสโลกาภิวัตน์ กลุ่มทุนและการเมืองแบบเก่า จึงตกอยู่ใน
สถานการณ์ของระบบล้าหลัง ซึ่งสุกงอมพร้อมที่จะเปิดประตูสู่อำนาจให้กับกลุ่มทุน

และธุรกิจการเมืองใหม่ การก้าวขึ้นสู่เวทีอำนาจพรรคไทยรักไทยของ พ.ต.ท. ทักษิณ
ชินวัตร หมายถึงเป็นการเสื่อมถอยของกลุ่ม “ทุนท้องถิ่น อิทธิพลท้องถิ่น”
อันเป็นฐานค่ำจุนระบบ “นักเลือกตั้ง” ความจริงแล้วพรรคไทยรักไทยเป็นเพียงพรรค

หน้าใหม่ประกอบด้วยลูกพรรคแกนนำเพียงหยิบมือเดียว และก่อตั้งขึ้นไม่ทัน
ชั่วข้ามคืน แต่นั่นก็ไม่เป็นอุปสรรค์อะไรที่จะสามารถกว้านต้อนเหล่านักเลือกตั้งอาชีพ

ซึ่งตั้งหน้าตั้งตาคอยสอดส่ายแสวงหาหนทางแหล่งอำนาจและความมั่งคั่ง
๔
อยู่แล้วเป็นกิจวัตร นี้คือตัวแทนของ “๑๖ ล้านเสียง” ที่ผู้นำพรรคไทยรักไทย
นำมาใช้อ้างอิงฐานะความชอบธรรมอย่างเบ็ดเสร็จ โดยเฉพาะในยามที่ต้องเผชิญกับ

สถานการณ์ที่ต้องถูกตั้งคำถามท้าทายพฤติกรรมการใช้อำนาจเบ็ดเสร็จและ
ผลประโยชน์ทับซ้อน เหนือกติกาใดๆ ตามรัฐธรรมนูญ แล้วในขณะเดียวกัน

ยังได้รับเสียงแซ่ซ้องสนับสนุนอย่างพร้อมเพรียงเป็นเสียงอันหนึ่งอันเดียวกัน
ในสถาบัน “ประชาธิปไตย” รัฐสภา

๔
ดังที่ พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคไทยรักไทย อ้างถึงคะแนนเสียง ๑๖ ล้านเสียง
หลังการเลือกตั้งทั่วไปตอนต้นปี ๒๕๔๘ (ผู้จัดการออนไลน์ ๔ เมษายน ๒๕๔๘) เป็นการยืนยันในความชอบธรรม
ของการใช้อำนาจเบ็ดเสร็จ โดยไม่ได้คำนึงแม้แต่น้อยว่ามีนัยเท่ากับแบ่งแยกประเทศ ทั้งคนและพื้นที่
ในขณะเดียวกับที่ใช้มาตรการปราบปรามรุนแรงต่อผู้คนสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ด้วยข้อหาว่าเป็นขบวนการ
แบ่งแยกดินแดน

๙๐ สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ