Page 444 - กฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องกับคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2567)
P. 444

ประกาศส านักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ


                                 เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการจ าหน่ายพัสดุโดยวิธีแปรสภาพหรือท าลาย


                            โดยที่เป็นการสมควรก าหนดให้มีประกาศส านักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ

                  เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการจ าหน่ายพัสดุโดยวิธีแปรสภาพหรือท าลาย เพื่อให้การบริหารพัสดุของ

                  ส านักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติเกี่ยวกับการจ าหน่ายพัสดุโดยวิธีแปรสภาพหรือท าลาย
                  เกิดประโยชน์สูงสุด สอดคล้องกับหลักการ มีความคุ้มค่า โปร่งใส มีประสิทธิภาพและประสิทธิผล

                  ตรวจสอบได้ และเป็นไปตามข้อ ๒๑๕ (๔) ของระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและ

                  การบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. ๒๕๖๐ ซึ่งก าหนดให้การแปรสภาพหรือท าลายต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์

                  และวิธีการที่หน่วยงานของรัฐก าหนด

                            อาศัยอ านาจตามความในมาตรา ๕๓ แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย
                  คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๖๐ และข้อ ๒๑๕ (๔) ของระเบียบกระทรวงการคลัง

                  ว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. ๒๕๖๐ ส านักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน

                  แห่งชาติจึงออกประกาศไว้ ดังต่อไปนี้


                            ข้อ ๑ ในประกาศนี้

                            “ส านักงาน” หมายความว่า ส านักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ

                            “เลขาธิการ” หมายความว่า เลขาธิการคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ
                            “พัสดุ” หมายความว่า ครุภัณฑ์ สิ่งของ หรือเครื่องมือที่มีลักษณะคงทนถาวรและมีอายุ

                  การใช้งานยืนนานเกิน ๑ ปี และไม่มีลักษณะเป็นวัสดุ

                            “แปรสภาพ” หมายความว่า การน าพัสดุที่ยังสามารถใช้งานได้บางส่วน มาดัดแปลง ยุบรวม

                  หรือถอดเป็นชิ้นส่วนอะไหล่ โดยที่ไม่มีสภาพของวัสดุเดิมเหลืออยู่

                            “ท าลาย” หมายความว่า การน าพัสดุที่ไม่สามารถใช้งานได้ไปด าเนินการโดยการเผา ทุบ
                  ท าลาย บดอัด ฝังกลบ หรือวิธีอื่นใดที่ท าให้ไม่สามารถน าพัสดุนั้นมาใช้งานได้อีก


                            ข้อ ๒ เมื่อเลขาธิการได้รับรายงานว่ามีพัสดุเสื่อมสภาพ หมดอายุการใช้งาน หมดความจ าเป็น

                  หรือหากใช้ในราชการต่อไปจะสิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายมาก จากรายงานการตรวจสอบพัสดุประจ าปีตามข้อ ๒๑๓

                  หรือก่อนมีการตรวจสอบพัสดุประจ าปีตามข้อ ๒๑๙ ของระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดซื้อ

                  จัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. ๒๕๖๐ ให้แต่งตั้งคณะกรรมการสอบหาข้อเท็จจริงตามข้อ ๒๑๔

                  ของระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. ๒๕๖๐

                            ข้อ ๓ กรณีที่คณะกรรมการสอบหาข้อเท็จจริงเห็นว่ามีพัสดุเสื่อมสภาพ หมดอายุการใช้งาน
                  หมดความจ าเป็น หรือหากใช้ในราชการต่อไปจะสิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายมาก และไม่อาจจ าหน่ายโดยวิธีการ

                  ตามข้อ ๒๑๕ (๑) (๒) หรือ (๓) ของระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหาร




                                                                                                                433
   439   440   441   442   443   444   445   446   447   448   449