Page 271 - กฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องกับคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2567)
P. 271
๑๓
(๒) การยืมเงินไปเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการฝึกอบรม การประชุม การสัมมนา หรือที่มีชื่อเรียก
เป็นอย่างอื่น ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ให้ส่งแก่หน่วยเบิกจ่ายผู้ให้ยืมภายในสามสิบวันนับจากวัน
เสร็จสิ้นการปฏิบัติราชการแต่ละครั้ง
(๓) การยืมเงินเพื่อใช้ในราชการนอกจาก (๑) หรือ (๒) ให้ส่งแก่หน่วยเบิกจ่ายผู้ให้ยืมภายใน
สามสิบวันนับจากวันได้รับเงิน
ในกรณีผู้ยืมได้รับเงินแล้ว แต่ปรากฏว่าเหตุอันต้องปฏิบัติตามวัตถุประสงค์ที่ยืมเงินระงับไป
ให้ผู้ยืมน าเงินยืมทั้งจ านวนที่ได้รับส่งแก่หน่วยเบิกจ่ายผู้ให้ยืมทันทีในโอกาสแรก
ข้อ ๖๔ ในกรณีที่ผู้ยืมได้ส่งใช้คืนเงินยืมแล้ว ภายหลังมีเหตุต้องทักท้วง ให้เจ้าหน้าที่การเงิน
แจ้งข้อทักท้วงให้ผู้ยืมทราบโดยเร็ว แล้วให้ผู้ยืมปฏิบัติตามข้อทักท้วงภายในสิบห้าวันนับจากวันที่รับทราบ
ข้อทักท้วง หากผู้ยืมมิได้ด าเนินการตามข้อทักท้วงและไม่ได้ชี้แจงเหตุผลให้เจ้าหน้าที่การเงินทราบ
ก็ให้ด าเนินการตามเงื่อนไขในสัญญาการยืมเงิน โดยถือว่าผู้ยืมยังมิได้ส่งใช้คืนเงินยืมเท่าจ านวนที่ทักท้วงนั้น
ข้อ ๖๕ เมื่อผู้ยืมส่งหลักฐานการจ่ายและเงินเหลือจ่าย (ถ้ามี) ให้เจ้าหน้าที่การเงินผู้รับคืนบันทึก
การรับคืนในสัญญาการยืมเงิน พร้อมทั้งออกใบรับใบส าคัญและใบเสร็จรับเงิน (ถ้ามี) ตามแบบที่ส านักงาน
ก าหนดให้ผู้ยืมไว้เป็นหลักฐาน
ข้อ ๖๖ ในกรณีที่ผู้ยืมมิได้ช าระคืนเงินยืมภายในระยะเวลาที่ก าหนด ให้หน่วยเบิกจ่ายผู้ให้ยืมนั้น
เรียกให้ชดใช้เงินยืมตามเงื่อนไขในสัญญาการยืมเงินให้เสร็จสิ้นไปโดยเร็ว อย่างช้าไม่เกินสามสิบวันนับแต่
วันครบก าหนด
กรณีผู้ยืมไม่อาจปฏิบัติตามวรรคหนึ่งได้ ให้หัวหน้าหน่วยเบิกจ่ายผู้ให้ยืมนั้นรายงานให้เลขาธิการ
ทราบ เพื่อพิจารณาสั่งการบังคับให้เป็นไปตามสัญญาการยืมเงินต่อไป
ข้อ ๖๗ ให้หน่วยเบิกจ่ายผู้ให้ยืมเก็บรักษาสัญญาการยืมเงินซึ่งยังมิได้ช าระคืนเงินยืมให้เสร็จสิ้น
ไว้ในที่ปลอดภัย อย่าให้สูญหายหรือช ารุดได้ และเมื่อผู้ยืมได้ช าระคืนเงินยืมเสร็จสิ้นแล้วให้เก็บรักษา
เช่นเดียวกับหลักฐานการจ่าย
หมวด ๔
การเก็บรักษาเงิน
ส่วนที่ ๑
สถานที่เก็บเงิน
260