Page 6 - รายงานฉบับสมบูรณ์ เหลียวหลังแลหน้า 2 ทศวรรษ สิทธิมนุษยชนในสังคมไทย
P. 6
งบประมาณอย่างมีประสิทธิภาพด้วยความเป็นธรรมและโปร่งใส และกลยุทธ์ที่ 5.3 พัฒนาให้เป็น
องค์กรเรียนรู้ (learning organization) เพื่อเป็นการพัฒนาระบบและองค์ความรู้ด้านสิทธิมนุษยชน
โดยรวม โดยมีเป้าประสงค์ คือ การรวบรวมมุมมองของผู้ปฏิบัติงาน/บุคคลที่เกี่ยวข้องกับ
การปฏิบัติงานด้านสิทธิมนุษยชนทั้งภายในและภายนอก กสม. และสำนักงาน กสม. เพื่อประมวล
สังเคราะห์และถอดบทเรียน โดยสะท้อนการปรับปรุงโครงสร้าง/นโยบาย (institutionalization) และ
การหล่อหลอม ตกผลึกและสร้างชุดความคิด (internalization) ผ่านพัฒนาการของ กสม. และ
สำนักงาน กสม. ในช่วงระหว่างปี 2544 – 2564 ตลอดจนรับฟังการสะท้อนจากองค์กรและ
หน่วยงานภายนอกต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องและจัดทำเป็นเอกสารและสื่อเผยแพร่และสร้างความเข้าใจ
เกี่ยวกับพลวัตของสิทธิมนุษยชนในสังคมไทยครอบคลุม ความมุ่งมั่น การปฏิบัติ ปัญหาอุปสรรค
และข้อท้าทาย ตลอดจนข้อเสนอแนะ ที่เป็นประโยชน์ต่อการกำหนดยุทธศาสตร์การทำงานของ
กสม. ในอนาคต จึงเป็นการสมควรที่จะต้องดำเนินการค้นคว้าวิจัยถอดบทเรียนอย่างเป็นระบบ และ
เป็นที่มาของโครงการ “เหลียวหลังแลหน้า 2 ทศวรรษ สิทธิมนุษยชนในสังคมไทย”
ระเบียบวิธีศึกษา
โครงการนี้ใช้ระเบียบวิธีศึกษาเชิงคุณภาพ โดยออกแบบกระบวนการเก็บรวบรวมข้อมูล
ออกเป็น 5 วิธี ได้แก่ (1) การศึกษาวิจัยเอกสาร (2) การสัมภาษณ์เชิงลึก จำนวน 33 คน (3) การ
สนทนากลุ่ม จำนวน 2 ครั้ง (4) การจัดทำแบบสอบถามความคิดเห็น จำนวน 50 คน และ (5) การ
จัดเวทีสาธารณะ จำนวน 1 ครั้ง โดยวิเคราะห์ผลด้วยวิธีการวิเคราะห์เนื้อหา (Content analysis)
การนำเสนอด้วยการพรรณนาความประกอบกับเรื่องเล่า (Narratives)
สรุปผลการศึกษา
จากการศึกษา พบว่า
1. พลวัตของสิทธิมนุษยชนในสังคมไทย
1.1 จุดเริ่มต้นของสิทธิมนุษยชนสากลในประเทศไทยอาจกล่าวได้ว่า เริ่มต้นพร้อมกับ
นานาชาติที่เป็นสมาชิกร่วมลงนามรับรองปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน จำนวน
48 ชาติตั้งแต่ปี 2491 และอีก 49 ปีถัดมาจึงสามารถก่อตั้งสถาบันสิทธิมนุษยชน
แห่งชาติ (National Human Rights Institute) ได้ภายใต้รัฐธรรมนูญแห่ง
ราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2540 และพระราชบัญญัติคณะกรรมการ
สิทธิมนุษยชนแห่งชาติ พ.ศ. 2542 หลังจากนั้นในปี 2544 กสม. ชุดที่ 1 จึงได้รับการ
สรรหาและเริ่มปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างเป็นทางการ โดยมีคณะกรรมการ 11 คน ดำรง
วาระ 7 ปี อย่างไรก็ดี ด้วยเสถียรภาพทางการเมืองไทยที่ไม่ได้เป็นประชาธิปไตยอย่าง
มั่นคงและต่อเนื่อง มีการรัฐประหารอีก 2 ครั้งตามมา ทำให้ต้องมีการร่างรัฐธรรมนูญ
ใหม่อีก 2 ฉบับ คือฉบับปีพุทธศักราช 2550 และ 2560 ซึ่งส่งผลต่อการได้มาซึ่ง
กสม. รวมทั้งอำนาจ หน้าที่ที่ถูกกำหนดในกฎหมายรัฐธรรมนูญมีเนื้อหาสาระต่างกัน
ส่งผลต่อการปฏิบัติงานของ กสม. ไปด้วย กสม. ชุดที่ 4 จำนวน 6 คน ประกอบด้วย
ประธานกรรมการและกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ 5 คน ได้รับพระบรมราช
โองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้ง ให้ปฏิบัติหน้าที่ ตั้งแต่วันที่ 25 พฤษภาคม
2564 และต่อมาได้มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งกรรมการ
สิทธิมนุษยชนแห่งชาติอีก 1 คน เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม 2565 ซึ่งครบตามที่กฎหมาย
กำหนด
-2-