Page 91 - รายงานการศึกษาวิจัยฉบับสมบูรณ์ สิทธิชุมชนในการจัดสรรทรัพยากรน้ำโดยใช้แนวทางสันติวิธี : กรณีศึกษาพื้นที่ต้นน้ำของประเทศไทย
P. 91
74
2) เกิดกระบวนการเรียนรู้ของคนในชุมชน จนมีรูปธรรมการจัดการป่าทั้งลุ่มน้้าร่วมกันซึ่งจะ
เป็นหลักประกันว่าทรัพยากรจะได้รับการปกป้องอย่างยั่งยืน
3) เกิดแกนน้าที่มีความเข้าใจ มีศักยภาพในการประสานและเชื่อมโยงการเรียนรู้ภายใน แกน
น้าหลายคนเข้าไปมีบทบาทในองค์การบริหารส่วนต้าบล (อบต.) รวมทั้งมีบทบาทในการขับเคลื่อน
นโยบายทั้งในระดับภาคและระดับประเทศ
4) ความเข้มแข็งขององค์กรและการก้าหนดรูปแบบการจัดการที่ชัดเจนร่วมกันทั้งต้าบลท้าให้
ชุมชนได้รับการยอมรับจากหน่วยงานรัฐ และหน่วยงานต่าง ๆ และ
5) ต้าบลแม่ทากลายเป็นแหล่งเรียนรู้ของชุมชน องค์กรและสถาบันต่าง ๆ ในด้านการจัดการ
ทรัพยากรดิน น้้า ป่า อย่างต่อเนื่อง (ศูนย์วนศาสตร์ชุมชนเพื่อคนกับป่า – ประเทศไทย, 2557)
สรุปแนวปฏิบัติที่ดี การจัดการทรัพยากรน้้าของชุมชนแม่ทาเน้นการจัดการแบบบูรณาการ
โดยให้ความส้าคัญต่อทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องให้มาท้างานร่วมกันตั้งแต่คนในชุมชนที่มีส่วนร่วมโดย
ตรงที่สามารถเข้าร่วมกิจกรรมการจัดเวทีเพื่อติดตามการท้างานด้านการจัดการทรัพยากรของ
เครือข่ายการจัดการทรัพยากรธรรมชาติต้าบลแม่ทาในทุก ๆ 3 เดือน หรือการเข้าร่วมพิธีกรรมการ
เลี้ยงผีขุนน้้า เป็นต้น ขณะที่ในระดับหมู่บ้าน ระดับต้าบล และระดับองค์การบริหารส่วนต้าบล ที่คน
ในชุมชนเป็นผู้คัดเลือกมีตัวแทนในระดับต่าง ๆ เข้าไปมีบทบาทในการจัดการทรัพยากรน้้าในบริบทที่
สูงขึ้น (แผนภูมิที่ 4.4) ทั้งนี้ คนในชุมชนมีความพร้อมต่อการปรับเปลี่ยนให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลง
ของสถานการณ์ปัจจุบันบนพื้นฐานของความเชื่อท้องถิ่นที่ผ่านการปลูกฝังจากบรรพบุรุษจากรุ่นสู่รุ่น
คนในชุมชน
ต้าบลแม่ทา
กลุ่ม/องค์กร/ วัฒนธรรม/
เครือข่ายต่าง ๆ ประเพณี
เช่น เช่น
- เครือข่ายการจัดการทรัพยากรธรรมชาติ - การเลี้ยงผีขุนน้้า
ต้าบลแม่ทา - การซ่อมฝาย รองเหมืองฝาย
- ข้อบัญญัติองค์การบริหารส่วนต้าบลแม่ทา - ฯลฯ
ว่าด้วยการจัดการป่าชุมชนต้าบลแม่ทา
พ.ศ. 2550
- ฯลฯ
แผนภูมิที่ 4.4 การมีส่วนร่วมของคนต้าบลแม่ทาในการจัดการทรัพยากรน้้าลุ่มน้้าแม่ทา