Page 99 - กฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องกับคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ
P. 99
ระเบียบคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ “พนักงานเจ้าหน้าที่” หมายความว่า พนักงานเจ้าหน้าที่ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ
ว่าด้วยหลักเกณฑ์การจ่ายค่าเบี้ยเลี้ยงและค่าเดินทางของพยานซึ่งมาให้ความเห็นหรือถ้อยค า ว่าด้วยคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๖๐ ซึ่งปฏิบัติการตามระเบียบนี้
พ.ศ. ๒๕๖๑ “ผู้ร้อง” หมายความว่า ผู้ร้องตามระเบียบคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติว่าด้วยหลักเกณฑ์
และวิธีการในการตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชน
โดยที่เป็นการสมควรก าหนดให้มีระเบียบคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติว่าด้วยหลักเกณฑ์ “ผู้ถูกร้อง” หมายความว่า ผู้ถูกร้องตามระเบียบคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติว่าด้วย
การจ่ายค่าเบี้ยเลี้ยงและค่าเดินทางของพยานซึ่งมาให้ความเห็นหรือถ้อยค า หลักเกณฑ์และวิธีการในการตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชน
อาศัยอ านาจตามความในมาตรา ๓๕ วรรคสอง (๓) แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ “ค่าเดินทาง” หมายความว่า ค่าพาหนะ ค่าเช่าที่พัก และค่าใช้จ่ายอื่น
ว่าด้วยคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๖๐ คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ “พาหนะส่วนตัว” หมายความว่า พาหนะซึ่งมิใช่ของทางราชการ ทั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็นกรรมสิทธิ์
จึงออกระเบียบไว้ ดังต่อไปนี้ ของผู้เดินทางหรือไม่ก็ตาม
“ค่าใช้จ่ายอื่น” หมายความว่า ค่าใช้จ่ายอื่นที่มีความจ าเป็นต้องจ่ายเนื่องในการเดินทาง
ข้อ ๑ ระเบียบนี้เรียกว่า “ระเบียบคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติว่าด้วยหลักเกณฑ์ หากไม่จ่ายค่าใช้จ่ายดังกล่าวจะไม่สามารถเดินทางถึงที่หมายได้ และต้องไม่เป็นค่าใช้จ่ายที่ระเบียบนี้
การจ่ายค่าเบี้ยเลี้ยงและค่าเดินทางของพยานซึ่งมาให้ความเห็นหรือถ้อยค า พ.ศ. ๒๕๖๑” ก าหนดไว้เป็นการเฉพาะแล้ว
๑
ข้อ ๒ ระเบียบนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป ข้อ ๕ ให้ประธานกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติรักษาการตามระเบียบนี้
ข้อ ๓ ให้ยกเลิก ในกรณีมีปัญหาเกี่ยวกับการปฏิบัติตามระเบียบนี้ ให้คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ
(๑) ระเบียบคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีจ่ายค่าเบี้ยเลี้ยงและ เป็นผู้วินิจฉัยชี้ขาด
ค่าเดินทางของพยานบุคคล พยานผู้ทรงคุณวุฒิ พยานผู้เชี่ยวชาญ และพนักงานเจ้าหน้าที่ พ.ศ. ๒๕๕๔ หมวด ๑
(๒) ระเบียบคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีจ่ายค่าเบี้ยเลี้ยงและ บททั่วไป
ค่าเดินทางของพยานบุคคล พยานผู้ทรงคุณวุฒิ พยานผู้เชี่ยวชาญ และพนักงานเจ้าหน้าที่ (ฉบับที่ ๒)
พ.ศ. ๒๕๖๐ ข้อ ๖ ให้พยานซึ่งคณะกรรมการ กรรมการ หรือพนักงานเจ้าหน้าที่ ขอหรือมีค าสั่งมาให้
ความเห็นหรือถ้อยค ามีสิทธิได้รับค่าเบี้ยเลี้ยงและค่าเดินทางตามอัตราที่ก าหนดไว้ในระเบียบนี้
ข้อ ๔ ในระเบียบนี้
“คณะกรรมการ” หมายความว่า คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ กรณีขอให้คณะกรรมการก าหนดบุคคลใดเป็นพยานผู้เชี่ยวชาญให้แสดงเอกสารหลักฐาน
“กรรมการ” หมายความว่า กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ และให้หมายความรวมถึง ความเป็นผู้เชี่ยวชาญของบุคคลนั้นเพื่อประกอบการพิจารณาของคณะกรรมการด้วย
ประธานกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติด้วย บรรดารูปแบบและรายการเอกสารประกอบการเบิกจ่ายเงินตามระเบียบนี้ให้เป็นไปตามที่
“ส านักงาน” หมายความว่า ส านักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ส านักงานก าหนด
“พยาน” หมายความว่า พยานบุคคลหรือพยานผู้เชี่ยวชาญ ข้อ ๗ การเดินทางมาให้ความเห็นหรือถ้อยค าของพยานตามระเบียบนี้ ให้ส านักงานพิจารณา
“พยานบุคคล” หมายความว่า บุคคลผู้รู้เห็นเหตุการณ์หรือทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเรื่อง อนุมัติและด าเนินการเบิกจ่ายค่าเบี้ยเลี้ยงและค่าเดินทางตามระเบียบนี้
ที่คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ หรือพนักงานเจ้าหน้าที่ ขอหรือ กรณีพยานตามวรรคหนึ่ง เป็นบุคลากรในสังกัดหน่วยงานของรัฐ ให้ใช้สิทธิเบิกค่าเบี้ยเลี้ยงและ
มีค าสั่งให้มาให้ถ้อยค าเป็นพยาน ตามที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการ ค่าเดินทางตามอัตราของทางราชการ และหากใช้สิทธิการเบิกเงินจากต้นสังกัดแล้ว พยานผู้นั้นไม่มีสิทธิ
สิทธิมนุษยชนแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๖๐ บัญญัติไว้ และให้หมายความรวมถึงผู้ร้องหรือผู้ถูกร้องที่ เบิกจากส านักงานอีก
คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ หรือพนักงานเจ้าหน้าที่ ขอหรือ
มีค าสั่งให้มาให้ถ้อยค าในฐานะพยานด้วย ข้อ ๘ กรณีมีค่าใช้จ่ายอื่นซึ่งจ าเป็นต้องจ่ายเนื่องในการเดินทางนอกเหนือจากที่ก าหนดไว้
“พยานผู้เชี่ยวชาญ” หมายความว่า บุคคลที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญหรือประสบการณ์เฉพาะด้าน ในระเบียบนี้ ให้ส านักงานมีดุลพินิจในการอนุมัติให้เบิกได้เท่าที่จ่ายจริง ทั้งนี้ ให้แนบหลักฐานการจ่าย
ที่คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติก าหนด หรือใบรับรองการจ่ายตามแบบที่ส านักงานก าหนดเป็นหลักฐานประกอบการเบิกจ่าย
๑
ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๓๕/ตอนที่ ๑๔ ก/หน้า ๒๒/๙ มีนาคม ๒๕๖๑
90