Page 89 - กฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องกับคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ
P. 89
ข้อ ๑๓ การยื่นเรื่องร้องเรียนตามข้อ ๑๒ ให้กระท าได้ ดังนี้ ในกรณีที่การตรวจเรื่องร้องเรียนจ าเป็นต้องมีการแสวงหาข้อเท็จจริงตามข้อ ๑๕ วรรคสอง
(๑) ยื่นต่อส านักงานหรือสถานที่ที่คณะกรรมการก าหนด ให้เจ้าหน้าที่รับเรื่องร้องเรียนด าเนินการและจัดท าบันทึกสรุปเรื่องร้องเรียนตามวรรคหนึ่ง แล้วเสนอ
(๒) ยื่นต่อกรรมการคนใดคนหนึ่ง คณะกรรมการภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ได้รับมอบหมาย เพื่อให้คณะกรรมการพิจารณาไปตามข้อเท็จจริง
(๓) ส่งทางไปรษณีย์ลงทะเบียนตอบรับ และพยานหลักฐานเท่าที่มีอยู่
(๔) ส่งด้วยวิธีการหรือรูปแบบอื่น เช่น ระบบอิเล็กทรอนิกส์หรือสื่ออื่น ๆ เรื่องร้องเรียนที่จะเสนอให้คณะกรรมการรับไว้เป็นค าร้อง ต้องปรากฏข้อเท็จจริงหรือพยานหลักฐาน
พอสมควรที่ท าให้เห็นว่ามีมูลอันสมควรได้รับการตรวจสอบด้วย
ข้อ ๑๔ นอกจากการยื่นเรื่องร้องเรียนตามข้อ ๑๒ และข้อ ๑๓ ผู้ร้องอาจแจ้งหรือร้องเรียน
ด้วยวาจา หรือทางโทรศัพท์ หรือโดยวิธีอื่นใดก็ได้ ก่อนการพิจารณาบันทึกสรุปเรื่องร้องเรียน คณะกรรมการอาจก าหนดให้มีกระบวนการกลั่นกรอง
ในการรับเรื่องร้องเรียนตามวรรคหนึ่ง ให้เจ้าหน้าที่ส านักงานบันทึกการร้องเรียนตามแบบ เรื่องร้องเรียนด้วยก็ได้ ทั้งนี้ หลักเกณฑ์ วิธีการ และระยะเวลาในการด าเนินการ ให้เป็นไปตามที่
ที่คณะกรรมการก าหนด คณะกรรมการก าหนด
บันทึกสรุปเรื่องร้องเรียนตามข้อนี้ ให้เป็นไปตามแบบที่คณะกรรมการก าหนด โดยอย่างน้อย
ส่วนที่ ๒ ต้องมีรายละเอียด ดังต่อไปนี้
๕
๗
การตรวจเรื่องร้องเรียน (๑) ชื่อของผู้ร้องและผู้ถูกร้อง
และการประสานการคุ้มครองสิทธิมนุษยชน (๒) สรุปข้อเท็จจริงตามเรื่องร้องเรียนและความประสงค์ของผู้ร้อง
(๓) ความเห็นของเจ้าหน้าที่รับเรื่องร้องเรียน พร้อมด้วยเหตุผลที่มีความเห็นดังกล่าว
ข้อ ๑๕ เมื่อได้รับเรื่องร้องเรียนให้ส านักงานมอบหมายเจ้าหน้าที่รับเรื่องร้องเรียนด าเนินการ
ตรวจเรื่องร้องเรียนให้เป็นไปตามกฎหมายและระเบียบต่อไป ข้อ ๑๗ ในกรณีที่เรื่องร้องเรียนใดมีลักษณะตามมาตรา ๓๙ ให้เจ้าหน้าที่รับเรื่องร้องเรียน
ในการตรวจเรื่องร้องเรียนตามวรรคหนึ่ง เจ้าหน้าที่รับเรื่องร้องเรียนอาจแสวงหาข้อเท็จจริง ท าความเห็นเสนอคณะกรรมการเพื่อพิจารณาไม่รับไว้เป็นค าร้อง
เบื้องต้นเพื่อกลั่นกรองว่า เรื่องร้องเรียนมีมูลและอยู่ในหน้าที่และอ านาจของคณะกรรมการหรือไม่ นอกจากกรณีตามวรรคหนึ่ง เจ้าหน้าที่รับเรื่องร้องเรียนอาจท าความเห็นเสนอคณะกรรมการ
ในกรณีที่เรื่องร้องเรียนใดไม่ถูกต้อง ไม่ครบถ้วน หรือไม่ชัดเจน หรือมีข้อบกพร่องในสาระส าคัญ ให้แจ้ง เพื่อพิจารณาไม่รับเรื่องร้องเรียนใดไว้เป็นค าร้องได้ หากเรื่องร้องเรียนนั้นมีลักษณะดังต่อไปนี้
ผู้ร้องด าเนินการแก้ไขให้ถูกต้อง หรือเพิ่มเติมรายละเอียดให้ชัดเจน หรือจะเชิญผู้ร้องมาพบเพื่อสอบถาม (๑) เรื่องที่ข้อเท็จจริงไม่เพียงพอต่อการพิจารณาและไม่สามารถติดต่อผู้ร้องได้ทั้งการพิจารณาต่อไป
ข้อเท็จจริง หรือขอเอกสารหรือพยานหลักฐานเพิ่มเติมก็ได้ รวมถึงด าเนินการใด ๆ เพื่อให้ได้มาซึ่ง จะไม่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนโดยส่วนรวม
ข้อเท็จจริงเพิ่มเติมที่เพียงพอต่อการท าความเห็นเสนอต่อคณะกรรมการได้ (๒) เรื่องที่ผู้ร้องประสงค์ขอถอนเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้ การถอนเรื่องร้องเรียนต้องมีหนังสือ
ในกรณีการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนอาจกระท าได้ด้วยวิธีการประสานงานกับหน่วยงานของรัฐ ลงลายมือชื่อผู้ร้องประกอบการพิจารณาด้วย
องค์กรเอกชน หรือองค์กรอื่นใดในด้านสิทธิมนุษยชน หรือการประสานกับบุคคลอื่นใดในการคุ้มครอง (๓) เรื่องที่คณะกรรมการเคยพิจารณาแล้ว และไม่ปรากฏหลักฐานหรือข้อเท็จจริงใหม่อันอาจท า
สิทธิมนุษยชนแก่ผู้ร้อง ให้เจ้าหน้าที่รับเรื่องร้องเรียนด าเนินการได้โดยค านึงถึงความจ าเป็นเร่งด่วน ให้ผลการพิจารณาเปลี่ยนแปลงไป
เหมาะสมแก่กรณี รวมทั้งต้องใช้ความระมัดระวังตามสมควรเพื่อมิให้เกิดผลกระทบที่ไม่เป็นธรรมต่อผู้ร้อง (๔) เรื่องที่ผู้ได้รับความเสียหายไม่ประสงค์ให้คณะกรรมการตรวจสอบ
ผู้ถูกร้อง หรือผู้เกี่ยวข้อง (๕) เรื่องอื่นตามที่คณะกรรมการก าหนด
ในระหว่างการตรวจสอบตามหมวด ๓ หากพนักงานเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบค าร้องเห็นว่าค าร้องใด
ข้อ ๑๖ เมื่อได้ตรวจเรื่องร้องเรียนตามข้อ ๑๕ แล้ว ให้เจ้าหน้าที่รับเรื่องร้องเรียนจัดท าบันทึกสรุป มีลักษณะตามวรรคสอง อาจท าความเห็นเสนอคณะกรรมการเพื่อพิจารณายุติเรื่องได้ โดยให้ด าเนินการ
เรื่องร้องเรียนและข้อเท็จจริงหรือพยานหลักฐาน พร้อมความเห็นว่าควรรับไว้เป็นค าร้องเพื่อด าเนินการ ตามข้อ ๓๓ วรรคสี่ ต่อไป
ในเรื่องใด หรือควรไม่รับไว้เป็นค าร้องด้วยเหตุผลใด แล้วเสนอคณะกรรมการภายในสิบวันนับแต่วันที่ ๘
ได้รับมอบหมาย ข้อ ๑๘ เรื่องร้องเรียนใดที่คณะกรรมการเห็นว่าควรรับไว้เป็นค าร้องเพื่อด าเนินการประสาน
๖
การคุ้มครองสิทธิมนุษยชนกับหน่วยงานของรัฐ องค์กรเอกชน หรือองค์กรอื่นใดในด้านสิทธิมนุษยชน
ให้ส านักงานส่งเรื่องดังกล่าวให้หน่วยงานหรือองค์กรนั้นพิจารณาด าเนินการตามหน้าที่และอ านาจ
ภายในระยะเวลาที่ก าหนด
๕ ชื่อ ส่วนที่ ๒ การตรวจเรื่องร้องเรียนและการประสานการคุ้มครองสิทธิมนุษยชน แก้ไขเพิ่มเติมโดยระเบียบ
คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการในการตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชน (ฉบับที่ ๒) ๗ ข้อ ๑๖ วรรคห้า แก้ไขเพิ่มเติมโดยระเบียบคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการ
พ.ศ. ๒๕๖๓ ในการตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชน (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๓
๖ ข้อ ๑๖ วรรคหนึ่ง แก้ไขเพิ่มเติมโดยระเบียบคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการ ๘ ข้อ ๑๘ แก้ไขเพิ่มเติมโดยระเบียบคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการในการ
ในการตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชน (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๓ ตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชน (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๓
80
