Page 35 - กฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องกับคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ
P. 35
มาตรา ๕๗ เมื่อพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจ าปีงบประมาณหรือพระราชบัญญัติ มาตรา ๖๑ ในวาระเริ่มแรก ให้การด าเนินการเกี่ยวกับการสรรหาผู้สมควรได้รับการแต่งตั้ง
งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมตามมาตรา ๕๖ ใช้บังคับแล้ว ให้ส านักงานจัดท างบประมาณรายจ่ายประจ าปี เป็นประธานกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติและกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติตามพระราชบัญญัติ
เพื่อขอความเห็นชอบจากคณะกรรมการและเผยแพร่ให้ประชาชนทราบเป็นการทั่วไป ประกอบรัฐธรรมนูญนี้ นอกจากต้องด าเนินการตามหมวด ๑ คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ แล้ว
การใช้จ่ายเงินของส านักงานต้องเป็นไปตามที่ระบุไว้ในงบประมาณรายจ่ายประจ าปีตามวรรคหนึ่ง ให้เป็นไปตามกระบวนการและก าหนดเวลาดังต่อไปนี้
เว้นแต่จะได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการเป็นการเฉพาะกรณี (๑) ให้คณะกรรมการก าหนดระเบียบเกี่ยวกับการจดแจ้ง การรับจดแจ้ง และการเลือกกันเอง
ในการเบิกงบประมาณที่ได้รับการจัดสรร ให้ส านักงานส่งข้อมูลค าขอเบิกงบประมาณ ตามมาตรา ๑๑ วรรคสาม ให้แล้วเสร็จภายในสามสิบวันนับแต่วันที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้
ต่อกรมบัญชีกลาง โดยให้ระบุจ านวนเงินที่จะต้องใช้ในแต่ละงวด งวดละสามเดือน และให้กรมบัญชีกลาง ใช้บังคับ และประกาศให้ประชาชนทราบเป็นการทั่วไป
สั่งจ่ายเงินให้แก่ส านักงานภายในสามวันก่อนวันขึ้นงวดใหม่ แต่ในกรณีที่ส านักงานมีความจ าเป็น (๒) ให้ส านักงานประกาศการรับจดแจ้งและด าเนินการรับจดแจ้งการเป็นองค์กรเอกชน
ต้องใช้เงินมากกว่าที่ได้แจ้งไว้ในงวดใด ให้กรมบัญชีกลางจ่ายให้ตามที่ส านักงานร้องขอ ด้านสิทธิมนุษยชนตามมาตรา ๑๑ (๔) และสภาวิชาชีพตามมาตรา ๑๑ (๕) ให้แล้วเสร็จภายใน
สามสิบวันนับแต่ที่ระเบียบตาม (๑) ใช้บังคับ
มาตรา ๕๘ ให้ส านักงานจัดท างบดุล งบการเงิน และบัญชีท าการส่งผู้สอบบัญชีภายในเก้าสิบวัน
(๓) ให้องค์กรเอกชนด้านสิทธิมนุษยชนและสภาวิชาชีพซึ่งได้รับการจดแจ้งตาม (๒)
นับแต่วันสิ้นปีบัญชี ด าเนินการเลือกกันเองเพื่อเป็นกรรมการสรรหาตามมาตรา ๑๑ (๔) และ (๕) ให้แล้วเสร็จภายใน
ให้ส านักงานการตรวจเงินแผ่นดินเป็นผู้สอบบัญชีของส านักงาน โดยให้ท าการตรวจสอบ สามสิบวันนับแต่พ้นก าหนดเวลาตาม (๒)
รับรองบัญชีและการเงินทุกประเภทของส านักงาน รวมทั้งประเมินผลการใช้จ่ายเงินและทรัพย์สิน (๔) ให้กรรมการสรรหาตามมาตรา ๑๑ (๑) (๒) (๓) (๔) และ (๕) ตกลงวิธีการเลือกกรรมการ
ของส านักงานโดยแสดงให้เห็นด้วยว่าการใช้จ่ายดังกล่าวเป็นไปตามวัตถุประสงค์ ประหยัด ได้ผล
ตามเป้าหมาย มีประสิทธิภาพ เกิดผลสัมฤทธิ์ และคุ้มค่าเพียงใด แล้วท ารายงานเสนอผลการสอบบัญชี สรรหาตามมาตรา ๑๑ (๖) ให้แล้วเสร็จภายในยี่สิบวันนับแต่วันที่พ้นก าหนดเวลาตาม (๓) และ
ต่อรัฐสภาและคณะรัฐมนตรี โดยไม่ชักช้า ด าเนินการเลือกกรรมการสรรหาตามมาตรา ๑๑ (๖) ให้แล้วเสร็จภายในสามสิบวันนับแต่วันที่มีข้อตกลง
วิธีการเลือกดังกล่าว
หมวด ๔ (๕) เมื่อพ้นก าหนดเวลาตาม (๔) แล้ว ให้กรรมการสรรหาตามมาตรา ๑๑ ด าเนินการจัดท า
บทก าหนดโทษ หลักเกณฑ์ วิธีการ และระยะเวลาที่จะใช้ในการสรรหาตามมาตรา ๑๓ (๑) ให้แล้วเสร็จภายในสามสิบวัน
นับแต่พ้นก าหนดเวลาตาม (๔)
มาตรา ๕๙ ผู้ใดไม่ปฏิบัติตามค าสั่งของคณะกรรมการตามมาตรา ๓๕ (๑) มาตรา ๔๐ วรรคสี่ (๖) ให้กรรมการสรรหาด าเนินการสรรหาให้แล้วเสร็จภายในเก้าสิบวันนับแต่พ้นก าหนดเวลา
หรือมาตรา ๔๔ โดยไม่มีเหตุอันสมควร หรือฝ่าฝืนมาตรา ๔๖ ต้องระวางโทษจ าคุกไม่เกินหกเดือน หรือ ตาม (๕)
ปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจ าทั้งปรับ ในกรณีที่มีปัญหาเกี่ยวกับการด าเนินการตาม (๑) (๒) หรือ (๓) ให้เป็นหน้าที่และอ านาจของ
คณะกรรมการเป็นผู้วินิจฉัย ค าวินิจฉัยของคณะกรรมการให้เป็นที่สุด และให้น าความในมาตรา ๑๘
บทเฉพาะกาล
มาใช้บังคับโดยอนุโลม
มาตรา ๖๐ ให้ประธานกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติและกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ มาตรา ๖๒ ให้เลขาธิการคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติซึ่งด ารงต าแหน่งอยู่ในวันก่อน
ซึ่งด ารงต าแหน่งอยู่ในวันก่อนวันที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้ใช้บังคับพ้นจากต าแหน่ง วันที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้ใช้บังคับ ยังคงเป็นเลขาธิการคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน
นับแต่วันที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้ใช้บังคับ แต่ให้ยังคงปฏิบัติหน้าที่ต่อไปจนกว่าประธาน แห่งชาติตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้
กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติและกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติที่แต่งตั้งขึ้นใหม่จะเข้ารับหน้าที่
ให้ผู้ซึ่งอยู่ปฏิบัติหน้าที่ต่อไปตามวรรคหนึ่งมีสิทธิได้รับเงินเดือน เงินประจ าต าแหน่ง และ มาตรา ๖๓ ให้ส านักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติตามพระราชบัญญัติ
ประโยชน์ตอบแทนอื่นตามที่ได้รับอยู่ในวันก่อนวันที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้ใช้บังคับ คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๒ เป็นส านักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ
และให้มีสิทธิได้รับบ าเหน็จตอบแทนตามมาตรา ๓๒ โดยให้ถือว่าเป็นการพ้นจากต าแหน่งเพราะลาออก ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้
โดยให้ค านวณระยะเวลาตั้งแต่วันที่ได้รับโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งจนถึงวันที่หยุดปฏิบัติหน้าที่ บรรดาสิทธิ หน้าที่ และความผูกพันใด ๆ ที่ส านักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ
ในกรณีผู้ซึ่งอยู่ปฏิบัติหน้าที่ต่อไปตามวรรคหนึ่ง ตาย ลาออก หรือไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ได้ ตามพระราชบัญญัติคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๒ มีอยู่กับบุคคลใดในวันก่อนวันที่
ไม่ว่าด้วยเหตุใด และมีผู้ซึ่งอยู่ปฏิบัติหน้าที่ต่อไปไม่ถึงกึ่งหนึ่ง ให้น าความในมาตรา ๒๒ มาใช้บังคับ พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้ใช้บังคับ ให้โอนมาเป็นของส านักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน
โดยอนุโลม แห่งชาติตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้
26