Page 21 - รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์ เรื่อง โครงการศึกษาวิจัยปัญหาการเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมของบุคคลผู้ที่มีอาการตาบอดสี
P. 21
12
(3) Tritanomaly มีความผิดปกติของ Blue–sensitive cone พบผู้ปุวยประเภทนี้น้อยมาก
(ตาบอดสีน้ําเงิน)
2) Dichromatism ผู้ปุวยประเภทนี้จะมี Cone pigments 2 ชนิดประกอบด้วย
(1) Protanopia ผู้ปุวยจะขาด Red–sensitive cone พบประมาณ 1% (ตาบอดสีแดง)
(2) Deuteronopia ผู้ปุวยจะขาด Green–sensitive cone พบประมาณ 1% เช่น
เดียวกัน (ตาบอดสีเขียว)
(3) Tritanopia พบได้น้อยมาก และจะแยกจาก Acquired color vision defect เช่น
Dominant inherited optic atrophy ได้ยากเพราะจะมีความสับสนในการแยกระหว่างสีน้ําเงินกับสีเหลือง
3) Monochromatism หรือ Achromatopia คือ ผู้ปุวยที่มี Cone cell เพียงชนิดเดียว
หรือไม่มีเลย (Rod monochromatism) ซึ่งความผิดปกติพวกนี้พบได้น้อยมาก
2.1.4 วิธีการทดสอบตาบอดสี
การทดสอบตาบอดสีมีหลายวิธี โดยวิธีที่ได้รับความนิยมสูงสุดเป็นวิธีของ Prof.Dr. Shinobu
Ishihara จาก Tokyo คือ แบบทดสอบที่มีวงกลมวงใหญ่และมีจุดสีเล็กๆ ข้างในจะซ่อนตัวเลขและเส้นเอาไว้
มีทั้งหมด 24 แบบ และให้ผู้ทดสอบอ่าน หากสามารถอ่าน และลากเส้นได้ถูกต้องทั้งหมดถือว่าตาปกติ ดังตาราง
แผ่นภาพทดสอบตาบอดสี (ตารางที่ 2.1)
ตารางที่ 2.1 แสดงแผ่นทดสอบตาบอดสี
ผลการมองเห็น
แผ่นภาพ แผ่นทดสอบตาบอดสี
สายตาปกติ ตาบอดสี
1 อ่านได้เลข 12 อ่านได้เลข 12
2 อ่านได้เลข 8 - ตาบอดสีน้ําเงินอ่านได้เลข 3
- ตาบอดทุกสีไม่สามารถอ่านได้เลย