Page 494 - รายงานผลการศึกษาวิจัย ฉบับสมบูรณ์ โครงการศึกษาวิจัยเพื่อการปรับปรุงแก้ไขนโยบายกฎหมายที่ละเมิดสิทธิมนุษยชนด้านที่ดินและป่า
P. 494
เกี่ยวกับการเจรจากู้เงินจากธนาคารโลกสําหรับโครงการพัฒนาการในเขตปฏิรูปที่ดินของสํานักงาน
ปฏิรูปที่ดินเพื่อการเกษตรกรรม ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
4.3 โครงการป่าทดลองเข้าไปสํารวจการใช้ประโยชน์ จํานวน 27 ป่า
เมื่อได้ประกาศใช้กฎหมายปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ฉบับที่ 3) ในวันที่ 8 กันยายน 2532
่
ได้เพิ่มอํานาจแก่ ส.ป.ก. ในการนําพื้นที่ปาสงวนแห่งชาติมาดําเนินการปฏิรูปที่ดิน โดยเพิ่มเติม
่
บทบัญญัติในมาตรา 26 (4) กําหนดให้อํานาจ ส.ป.ก. นําที่ดินปาสงวนแห่งชาติมาดําเนินการปฏิรูป
่
ที่ดินได้เมื่อคณะรัฐมนตรีมีมติให้ดําเนินการในเขตปาสงวนแห่งชาติส่วนใดแล้ว ให้มีพระราชกฤษฎีกา
่
กําหนดเขตปฏิรูปที่ดินมีผลเป็นการเพิกถอนปาสงวนแห่งชาติ โดยไม่ต้องออกกฎกระทรวงเพิกถอน
่
ตามกฎหมายปาสงวนแห่งชาติ และให้ ส.ป.ก. นําที่ดินนั้น มาใช้ในการปฏิรูปที่ดินได้อีกทั้งยังได้
เพิ่มเติมมาตรา 36 ทวิ ให้ ส.ป.ก. เป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์เพื่อใช้ในการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม และใน
วรรคสองกําหนดให้พนักงานเจ้าหน้าที่ตามประมวลกฎหมายที่ดินมีอํานาจออกหนังสือแสดงสิทธิใน
ที่ดินเกี่ยวกับที่ดินของ ส.ป.ก. ตามวรรคหนึ่ง ทั้งนี้ตามที่สํานักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.
ป.ก.) ร้องขอ
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์มีนโยบายในเรื่องดังกล่าว โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตร
่
่
และสหกรณ์ ได้อนุมัติหลักการให้ ส.ป.ก. ประสานงานกับกรมปาไม้ ในการสํารวจสภาพพื้นที่ปาสงวน
แห่งชาติที่จะมอบให้ ส.ป.ก. นํามาดําเนินการ และได้มีการประชุมหารือร่วมกันในวันที่ 12 กันยายน
2532 ณ ห้องประชุมกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งที่ประชุมในครั้งดังกล่าวได้พิจารณาเกี่ยวกับแนว
่
ทางการดําเนินการปฏิรูปที่ดินในที่ดินปาสงวนแห่งชาติโทรมเสื่อมโทรม ที่ประชุมมีมติ ดังนี้
่
(1) ที่ดินปาสงวนแห่งชาติ ซึ่งจะนํามาดําเนินการปฏิรูปที่ดิน มีหลักการที่จะ
ดําเนินการสํารวจแบ่งสภาพพื้นที่ออกเป็น 3 ประเภท
(1.1) พื้นที่ที่เป็นที่ชุมชนหรือที่ดินที่ควรสงวนไว้เป็นที่ชุมชน
(1.2) พื้นที่ที่เหมาะสมสําหรับการประกอบเกษตรกรรม
่
่
(1.3) พื้นที่ควรสงวนไว้เพื่อฟื้นฟูสภาพปาให้เป็นปาไม้คงเดิม
่
(2) การพิจารณาคัดเลือกพื้นที่ปาสงวนแห่งชาติ ตัวอย่างซึ่งจะให้เป็นพื้นที่ทดลอง
ดําเนินการปฏิรูปที่ดิน เนื้อที่ประมาณ 500,000 ไร่ ใน 4 ภาค ได้แก่ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เนื้อที่
ประมาณ 200,000 ไร่ ภาคกลางตอนบน เนื้อที่ประมาณ 100,000 ไร่ ภาคกลางตอนล่าง เนื้อที่
ประมาณ 150,000 ไร่ และภาคใต้ เนื้อที่ประมาณ 50,000 ไร่ ซึ่งจะเริ่มดําเนินการในปีงบประมาณ
่
2533 โดยมีหลักเกณฑ์การคัดเลือกพื้นที่ปาไม้ บริเวณที่ถูกบุกรุกทําลายแล้ว และให้มีการสํารวจ
จัดแยกประเภทพื้นที่เป็น 3 ประเภท
(3) การดําเนินการตามข้อ (1) และ (2) มอบหมายให้ผู้อํานาจการกองจัดการปฏิรูป
่
ที่ดินของ ส.ป.ก. และให้ผู้แทนกรมปาไม้ ประสานงานดําเนินการในเรื่องดังกล่าว
8‐59