Page 492 - รายงานผลการศึกษาวิจัย ฉบับสมบูรณ์ โครงการศึกษาวิจัยเพื่อการปรับปรุงแก้ไขนโยบายกฎหมายที่ละเมิดสิทธิมนุษยชนด้านที่ดินและป่า
P. 492
ส.ป.ก. ในการดําเนินการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมในเขตปฏิรูปที่ดินดังกล่าวอยู่ ซึ่งธนาคารโลกได้
ยกขึ้นมาเป็นสาระสําคัญในการเจรจาขอกู้เงินรายนี้ว่า ตามพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อ
เกษตรกรรม พ.ศ. 2518 มาตรา 26 (3) สํานักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมจะมีอํานาจ
่
่
ดําเนินการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมในที่ดินที่เป็นปาสงวนแห่งชาติหรือเขตปาไม้ถาวรได้หรือไม่ จึง
ั
ขอให้สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตีความตีความก่อนการเจรจากู้เงิน ขอหารือปญหาดังต่อไปนี้
4. สํานักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม มีอํานาจในการดําเนินการปฏิรูปที่ดิน
เพื่อเกษตรกรรมในที่ดินดังกล่าวข้างต้น ตามมาตรา 26 (3) ประกอบกับบทนิยามคําว่า “การปฏิรูป
ที่ดินเพื่อเกษตรกรรม” และคําว่า “ที่ดินของรัฐ” ในมาตรา 4 (2) พระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อ
เกษตรกรรม พ.ศ. 2518 หรือไม่
5. หากสํานักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) ไม่มีอํานาจตามข้อ 1
่
ส.ป.ก. จะมีอํานาจตามกฎหมายอื่น เช่น มาตรา 16 แห่งพระราชบัญญัติปาสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507
หรือบทกฎหมายอื่นได้หรือไม่
6. หากไม่มีบทกฎหมายให้อํานาจหากสํานักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม
(ส.ป.ก.) ดําเนินการจะเป็นไปได้หรือไม่ ที่หาก ส.ป.ก. จะดําเนินการโดยอาศัยอํานาจและนโยบายของ
่
ฝายบริหาร
วันที่ 24 ธันวาคม 2524 สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา มีหนังสือ ด่วนมาก ที่
สร. 0601/1690 ลงวันที่ 24 ธันวาคม 2524 เรื่อง ข้อหารือเกี่ยวกับอํานาจของสํานักงานการปฏิรูปที่ดิน
่
เพื่อเกษตรกรรมในการดําเนินการปฏิรูปที่ดินในเขตปาสงวนแห่งชาติ ความว่า คณะกรรมการ
่
กฤษฎีกา (กรรมการร่างกฎหมาย คณะที่ 5) มีความเห็นว่า ส.ป.ก. ไม่มีอํานาจนําที่ดินในเขตปาสงวน
แห่งชาติมาใช้ในการปฏิรูปที่ดิน เพราะพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. 2518 ไม่
่
มีบทบัญญัติให้อํานาจไว้ และไม่อาจใช้อํานาจตามกฎหมายอื่น หรือนโยบายของฝายบริหารนําที่ดิน
ดังกล่าวมาปฏิรูปที่ดินได้ นอกจากนั้น การปฏิรูปที่ดินมีลักษณะต่อเนื่องหรือเป็นการถาวร ไม่ใช่เรื่อง
่
ชั่วคราวดังที่บัญญัติไว้ในมาตรา 16 แห่งพระราชบัญญัติปาสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507 หากจะ
่
ดําเนินการโดยชอบด้วยกฎหมาย ต้องดําเนินการออกกฎกระทรวงเพิกถอนให้เป็นที่ดินนอกเขตปา
สงวนแห่งชาติเสียก่อน เมื่อเพิกถอนแล้วก็ย่อมดําเนินการได้ตามมาตรา 26 (3) แห่ง พ.ร.บ.การปฏิรูป
ที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. 2518
หลังจากหากสํานักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
ทราบความเห็นของสํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา กระทรวงเกษตรและสหกรณ์จึงได้นําโครงการ
พัฒนาการในเขตปฏิรูปที่ดินเสนอให้คณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติพิจารณา
เห็นขอบแล้ว นําเสนอขอความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2525 ซึ่ง
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบด้วยกับโครงการพัฒนาการในเขตปฏิรูปที่ดิน และอนุมัติให้ส่วนราชการที่
8‐57