Page 144 - รายงานผลการศึกษาวิจัย ฉบับสมบูรณ์ โครงการศึกษาวิจัยเพื่อการปรับปรุงแก้ไขนโยบายกฎหมายที่ละเมิดสิทธิมนุษยชนด้านที่ดินและป่า
P. 144

่
                       ไม่ควรไปนิยามความหมายปาที่เป็นการรอนสิทธิของราษฎรและชุมชนที่ครอบครองใช้ประโยชน์ที่ดิน
                       มาแต่เดิม
                              9. ควรทบทวนเพื่อปรับปรุงแก้ไขมติคณะรัฐมนตรีวันที่ 30 มิ.ย. 2541 ซึ่งหน่วยงานด้าน
                                                                               ั
                        ่
                       ปาไม้ของกระทรวงทรัพยากรฯ ใช้เป็นแนวทางการทํางานจัดการปญหาพิพาทขัดแย้งกับราษฎรใน
                                                                                                  ่
                                                                ั
                       ท้องถิ่น เพราะตั้งแต่มีมติคณะรัฐมนตรีจนถึงปจจุบันเป็นเวลา 15 ปีแล้ว หน่วยงานปาไม้ก็ยัง
                       ตรวจสอบพิสูจน์สิทธิราษฎรไม่เสร็จ และพื้นที่ที่สํารวจมีข้อมูลชัดแจ้งแล้วก็ไม่มีกระบวนการเจรจา
                                                                                                   ่
                       คลี่คลายความขัดแย้งแต่อย่างใด หลายพื้นที่แม้จะพิสูจน์สิทธิว่ามีสิทธิมาก่อนประกาศเขตปาก็ยังถูก
                       จํากัดการใช้ประโยชน์ที่ดิน ถูกจํากัดการพัฒนา บ้างก็ยังถูกจับกุมและทําลายพืชผลอาสินเช่นการตัด
                        ั
                       ฟนต้นยางพารา สะท้อนให้เห็นว่าการดําเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีวันที่ 30  มิ.ย. 2541 ไม่ประสบ
                       ความสําเร็จหรืออาจกล่าวว่าล้มเหลวก็ว่าได้เพราะ ขาดการทํางานความต่อเนื่องให้เสร็จ และยังขาด
                       การมีส่วนร่วมอย่างเข้มแข็งและมีคุณภาพของผู้ที่เกี่ยวข้อง
                              การปรับแนวคิดเกี่ยวกับป่าและการจัดการป่า

                              นอกจากประเด็นทางนโยบายและกฎหมายแล้ว สังคมไทยควรจะเรียนรู้จากผลงานวิจัยรางวัล
                                                                    ั
                       โนเบลของ อิลินอร์ ออสตรอม ที่เสนอว่าข้อจํากัดและปญหาไร้ประสิทธิภาพของของรัฐและเอกชนใน
                       การจัดการทรัพยากรส่วนรวมมีทางออกด้วยการให้สิทธิแก่ชุมชนได้ดูแลและจัดการใช้ประโยชน์

                       ร่วมกันด้วยกติกาที่ชุมชนตกลงกันเอง เป็นการจุดประกายแนวคิดใหม่ ๆ ในสังคมโลกได้เรียนรู้และมี
                                                                                                      ั
                                                                   ่
                       ทางออกจากความขัดแย้ง ช่วยให้การจัดการจัดการปาและทรัพยากรธรรมชาติสอดคล้องกับปญหา
                       ความต้องการของราษฎรและสภาพทรัพยากรในท้องถิ่น ควรจะต้องสรุปผลงานของออสตรอมเผยแพร่
                       และสัมมนาให้ทั้งผู้บริหารและผู้ปฏิบัติได้รับทราบเพื่อหาทางนํามาปรับใช้ทั้งทางนโยบายและ
                       มาตรการให้เข้ากับบริบทของสังคมไทย
                                                             ่
                              ในการวางแผนและมาตรการจัดการปา ควรจะต้องทบทวนด้วยการเร่งรัดจําแนกเขตการใช้
                                    ่
                       ประโยชน์พื้นที่ปาให้ชัดเจน ควรนําแนวคิดการจัดการเขตกันชน (Buffer  zone  management)  มา
                                                                                              ่
                       ประกอบการกําหนดมาตรการใช้ประโยชน์ทรัพยากร แนวคิดเขตกันชนนี้ได้แบ่งพื้นที่ปาเป็นโซนตาม
                                                                                               ่
                       ระดับความเข้มข้นของการใช้ประโยชน์ เช่นโซนแก่นกลาง เช่นบนเขาใหญ่หรือกลางปาห้วยขาแข้ง
                                         ่
                                                                 ่
                       เป็นโซนที่ต้องรักษาปาอย่างเข้มงวด อนุญาตให้ใช้ปาได้ทางการศึกษาวิจัยเพื่อรักษาธรรมชาติเท่านั้น
                       และโซนการใช้ทรัพยากรอย่างยั่งยืน เป็นโซนที่ถัดออกมาจากโซนแกนกลาง ซึ่งควรอนุญาตให้ใช้
                       ประโยชน์ในทางเศรษฐกิจได้บนฐานจารีตประเพณีและวัฒนธรรมของชุมชนท้องถิ่นซึ่งอยู่บนหลักการ
                       เกื้อกูลต่อระบบนิเวศอยู่แล้ว และโซนเศรษฐกิจด้านนอก ซึ่งมีความเข้มงวดในการใช้ทรัพยากรตํ่า
                       สุดแต่ก็ต้องคํานึงถึงความสมดุลยั่งยืนของระบบนิเวศเช่นกัน
                                                ่
                                                                           ่
                                                                                      ่
                              และเมื่อจําแนกเขตปาในระบบใหม่แล้ว การปลูกปาหรือฟื้นฟูปาก็ต้องพิจารณาความ
                                                                     ่
                       สอดคล้องกับระบบนิเวศเป็นสําคัญ ควรเน้นการฟื้นปาด้วยกระบวนการทางธรรมชาติ หรือช่วย
                                                                                              ั
                       ธรรมชาติให้ฟื้นตัวได้เร็วขึ้น (Assisted natural regeneration) ในกรณีที่พื้นที่นั้น ๆ มีปญหาการฟื้นฟู
                                                                        ่
                       ตัวเองตามธรรมชาติ จึงควรจะต้องทบทวนโครงการปลูกปาขนาดใหญ่ทั้งหมดที่ทุ่มเทงบประมาณ
                                                                                           ่
                       มากมายแต่ไม่ประสบความสําเร็จและสร้างการมีส่วนร่วมของชุมชนให้ร่วมกันฟื้นปาด้วยกระบวนการ
                       ทางนิเวศตามธรรมชาติ



                                                                                                      5‐72
   139   140   141   142   143   144   145   146   147   148   149