Page 115 - เสียงจากประชาชน การต่อสู้เพื่อสิทธิในที่ดิน กรณีร้องเรียน 2545-2550. เล่ม 4 : "ที่ดินในเขตป่าและสิทธิชุมชนในการจัดการที่ดินและป่า"
P. 115
คำรองที่ เรื่องรองเรียน ความเห็นของ กสม. มาตรการแกไข / ขอเสนอแนะนโยบาย โดย กสม.
งของไทยในอดีต และจากการสำรวจการถือครอง
ปกครอ ๒. ใหอุทยานแหงชาติแกงกรุงและสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษที่ ๔ รวมทั้งหนวยงานราชการที่
ของราษฎรในพื้นที่อุทยานแหงชาติแกงกรุงโดยกรมปาไม เกี่ยวของตองดำเนินการรับรองสิทธิในที่ดินกับราษฎร ๗๖๖ ราย ที่ไดรับการสำรวจการถือครองและใช
ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๔๑ ก็ ประโยชนที่ดินตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๔๑ และตองรงสำรวจการถือครองที่ดิน
พบวามีราษฎรอาศัยอยูจำนวนมาก ของราษฎรรายที่ตกสำรวจในพื้นที่บานทับทหารโดยเร็ว และใหราษฎรไดมีสวนรวมในกระบวนการ
๒) ปญหาการซอนทับกันระหวางพื้นที่แนวเขต สำรวจตรวจสอบดังกลาวดวย ทั้งนี้ ภายใน ๔๕ วัน นับตั้งแตไดรับรายงานฉบับนี้
อุทยานฯ กับชุมชนบานทับทหาร สืบเนื่องจากการไมมี ขอเสนอแนะ
สวนรวมของประชาชนในการจำแนกและจัดการทรัพยากร ๑. ใหกรมปาไม และกรมอุทยานแหงชาติสัตวปา และพันธุพืช เขาไปสนับสนุนใหราษฏรไดมีสวน
ปาไมและที่ดิน และการดำเนินการแกไขปญหาพื้นที่ซอน รวมกับรัฐในการดูแลรักษาปาอยางยั่งยืน
ทับตามมติคณะรัฐมนตรี วันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๔๔ และ ๒. ใหมีการปรับปรุงกฎหมายที่เกี่ยวของกับการจัดการทรัพยากรปาไม ไดแกพระราชบัญญัติปา
๓ เมษายน ๒๕๔๑ เปนไปอยางลาชา และยืดเยื้อ สงผล ไม พ.ศ.๒๔๘๔ พระราชบัญญัติปาสงวนแหงชาติ พ.ศ.๒๕๐๗ พระราชบัญญัติอุทยานแหงชาติ พ.ศ.
ใหชาวบานถูกจับกุมและขาดความมั่นคงในที่ดิน ๒๕๐๔ พระราชบัญญัติสงวนและคุมครองสัตวปา พ.ศ.๒๕๓๔ และพระราชบัญญัติสวนปา พ.ศ.๒๕๓๕
การประกาศเขตอุทยานแหงชาติแกงกรุงซอนทับ โดยคำนึงถึงสิทธิชุมชน และใหชุมชน ประชาชนมีสวนรวมในการจัดการทรัพยากรในเขตพื้นที่ปา เพื่อนำ
ที่ดินทำกินของราษฎรและผูรอง และการแกไขปญหา ไปสูความยั่งยืนสมดุล สอดคลองกับระบบนิเวศ ทั้งนี้ในการปรับแกกฎหมาย ควรมีการรับฟงความคิด
ลาชา ละเมิดสิทธิของผูรอง เห็นของประชาชน ใหประชาชนมีสวนรวมกระบวนการพิจารณาแกไขกฎหมาย
๓๒๘/๒๕๔๘, กรณีการประกาศเขต ๑) การอพยพชาวบานหวยหวายเปนการละเมิด มาตรการในการแกไข
๓๕๐/๒๕๔๘ รักษาพันธุสัตวปาภูผา ศักดิ์ศรีความเปนมนุษย ทำใหบุคคลขาดความมั่นคงใน ๑. คณะทำงานแกไขปญหาการอยูอาศัยและที่ดินทำกินของราษฎรในเขตอุทยานแหงชาติน้ำหนาว
แดง และอพยพชาวบาน การดำเนินชีวิต การอพยพบานหวยหวายเปนการดำเนิน ปาสงวนแหงชาติน้ำหนาว และเขตรักษาพันธุสัตวปาภูผาแดง ในพื้นที่อำเภอหลมสัก ควรเรงดำเนินการ
รายงานผลการ หวยหวาย การที่มีการละเมิดสิทธิชุมชน สิทธิในที่ทำกิน และ กำหนดขอบเขตพื้นที่การครอบครองที่ดินของชาวบานหวยระหงส บานหวยกลทาและบานหวยหวาย เพื่อ
ตรวจสอบที่ อ.หลมสัก จ.เพชรบูรณ ละเมิดสิทธิในที่อยูอาศัย ตามรัฐธรรมนูญ พ.ศ.๒๕๔๐ ใหประชาชนไดรับรูแนวเขตที่ชัดเจน และทำการพิสูจนสิทธิการครอบครองที่ดินของชาวบานตอไป ภายใน
๕๕/๒๕๔๙ มาตรา ๔๖ และ มาตรา ๕๙ ๖๐ วัน นับแตวันที่ไดรับรายงานฉบับนี้
ลงวันที่ ๒) การประกาศเขตรักษาพันธุสัตวปาภูผาแดง ๒. เรงใหความชวยเหลือเรื่องที่ทำกินและจายคาทดแทนชาวบานหวยหวายที่ถูกอพยพโยกยาย
๒๘ ก.ย. ๒๕๔๙ เปนการดำเนินการที่มีการละเมิดสิทธิชุมชน สิทธิในที่ ใหเสร็จสิ้นภายใน ๖๐ วัน นับแตวันที่ไดรับรายงานฉบับนี้
ทำกิน และสิทธิในที่อยูอาศัย ตามรัฐธรรมนูญแหงราช ๓. กรมอุทยานแหงชาติ สัตวปา และพันธุพืช ควรยุติการจับกุมชาวบานที่ทำกินอยูเดิมในเขต
อาณาจักรไทย พ.ศ.๒๕๔๐ มาตรา ๔๖, ๕๖ , ๕๙ พื้นที่พิพาทที่กำลังดำเนินการพิสูจนสิทธิและรังวัดพื้นที่ และเขตรักษาพันธุสัตวปาภูผาแดง ควรยุติการ
๓) การที่เจาหนาที่เขตรักษาพันธุสัตวปาภูผา ดำเนินคดีกับชาวบานที่ถูกจับกุมในวันที่ ๑๓ มิถุนายน ๒๕๔๘ และวันที่ ๓ พฤศจิกายน ๒๕๔๘
แดงจับกุมดำเนินคดีตอชาวบานในลักษณะคุกคามเกิน ๔. แมกรมอุทยานแหงชาติ สัตวปา และพันธุพืช ไดโยกยายนายมนตรี เชียงอารีย หัวหนาเขต
กวาเหตุ ทั้งที่คณะทำงานที่จังหวัดแตงตั้งมีมติวาจะ รักษาพันธุสัตวปาภูผาแดง ออกจากพื้นที่ แตควรมีการตั้งคณะกรรมการสอบขอเท็จจริงถึงพฤติการณ
เขามาสำรวจ พื้นที่พรอมกันทุกฝายและการประชุมทุก ของเจาหนาที่ในการจับกุมและขมขูคุกคามเกินกวาเหตุ ภายใน ๓๐ วัน นับแตวันที่ไดรับรายงานฉบับนี้
ฝายรวมกับคณะอนุกรรมการสิทธิในการจัดการที่ดิน
และปา ชุดที่ ๒ มีมติใหยุติการจับกุม
การจับกุมดำเนินคดีตอชาวบานทั้งสองกรณีดัง
กลาวจึงเปนการกระทำที่มีการละเมิดสิทธิมนุษยชน
ตามรัฐธรรมนูญ พ.ศ.๒๕๔๐
เสียงจากประชาชน
114 การตอสูเพื่อสิทธิในที่ดิน กรณีรองเรียน ๒๕๔๕-๒๕๕๐