Page 114 - เสียงจากประชาชน การต่อสู้เพื่อสิทธิในที่ดิน กรณีร้องเรียน 2545-2550. เล่ม 4 : "ที่ดินในเขตป่าและสิทธิชุมชนในการจัดการที่ดินและป่า"
P. 114

คำรองที่   เรื่องรองเรียน   ความเห็นของ กสม.       มาตรการแกไข / ขอเสนอแนะนโยบาย โดย กสม.

 ๒๕๖/๒๕๔๖   กรณีชาวมง ต.ปากลาง   ๑) ชาวมงบานปากลางมีสิทธิครอบครองและทำ    มาตรการในการแกไข

 รายงานผลการ  อ.ปว จ.นาน ถูกขับไล ประโยชนบนที่ดินลุมน้ำเปอ-น้ำกอน อ.เชียงกลาง ดังนั้น  ๑. ใหรัฐบาลชดใชคาเสียหายที่ผูรองประสบตามความเปนจริงและอยางเปนธรรม โดยใหมี
 ตรวจสอบที่   และรื้อถอนตนลิ้นจี่ รวม หนังสือประกาศของอำเภอเชียงกลาง ลงวันที่ ๑๕ ก.พ. ๔๒   กระบวนการตรวจสอบความเสียหายที่มีผูรองอยูรวมในทุกขั้นตอน ทั้งนี้ ใหรัฐบาลเรงดำเนินกระบวนการ
 ๒๙/๒๕๔๙   ทั้งปลูกปาทับที่ทำกิน   ที่กำหนดใหชาวมงปากลางออกจากพื้นที่ทำประโยชน   สำรวจความเสียหายใหแลวเสร็จภายใน ๑๒๐ วัน นับแตวันที่ไดรับรายงานฉบับนี้ จากนั้นใหเรงดำเนินการ
 ลงวันที่   ภายใน ๓๐ วัน ถือเปนการขัดตอรัฐธรรมนูญแหงราช  ชดใชคาเสียหายโดยเร็ว
 ๒๖ ก.ค. ๒๕๔๙   อาณาจักรไทย พ.ศ.๒๕๔๐ มาตรา ๔, ๓๐ ,๔๖  และ ๔๘    ๒. ใหรัฐบาลประสานกับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณการเกษตกร (ธ.ก.ส.) พักชำระหนี้ให
 ๒) การปลูกปาซอนในพื้นที่สวนลิ้นจี่ และการตัด  ชาวมงบานปากลาง จากการปลูกลิ้นจี่ที่ถูกทำลาย ทั้งนี้ ใหมีผลภายใน ๖๐ วัน นับแตวันที่ไดรับรายงาน
 ฟนตนลิ้นจี่ของชาวบานปากลาง ของทุกฝายที่เกี่ยวของ  ฉบับนี้
 โดยเฉพาะอยางยิ่งบทบาทเจาหนาที่ของรัฐระดับสูง จึง  ๓. ใหรัฐบาลเรงรัดดำเนินการรับรองสิทธิทำกินของชาวบานทุกกลุม  ตามผลการตรวจสอบพิสูจน
 เปนการกระทำที่ละเมิดสิทธิมนุษยชน   การครอบครองที่ดินของจังหวัดนาน ถาจำเปนตองมีการอพยพผูมีสิทธิในที่ทำกินแตอยูในกรณีพื้นที่
 ๓) กระบวนการแกไขปญหาการรองทุกข โดย  กระทบตอระบบนิเวศ ตองมีมาตรการชวยเหลือหาที่ทำกินใหม และพิจารณาชวยเหลือผูที่ไมมีที่ดินทำกิน
 จังหวัดนาน และหนวยงานราชการที่เกี่ยวของ เปนการ  ที่ตองอพยพออกจากพื้นที่ปาตนน้ำดังกลาวดวย ทั้งนี้ ภายใน ๑๒๐ วัน นับแตวันที่ไดรับรายงานฉบับนี้
 ละเมิดสิทธิในการรองทุกขและไดรับการพิจารณาในเวลา  ขอเสนอแนะ
 อันสมควร ตามมาตรา ๖๑ รัฐธรรมนูญ พ.ศ.๒๕๔๐   ๑. ใหรัฐบาลสนับสนุนจังหวัดนานใหมีโครงการสรางความรวมมือระหวางทุกฝายในการดำเนิน
                ชีวิตในพื้นที่พิพาทเดิมอยางสันติสุข โดยเคารพศักดิ์ศรีความเปนมนุษย

                      ๒. ใหรัฐบาลสนับสนุนจังหวัดนาน ใหมีโครงการบริหารจัดการการใชทรัพยากรน้ำบนลุมน้ำเปอ-
                น้ำกอน อยางยั่งยืน  โดยใหมีความรวมมือจากทุกภาคสวน ทั้งชาวไทยที่สูงและชาวไทยพื้นราบ
                      ๓. รัฐบาลควรนำปญหาความขัดแยงที่เกิดขึ้นบนลุมน้ำเปอ-น้ำกอน ใหเปนกรณีศึกษาที่กวางขวาง
                และนำสูกระบวนการแกไขปญหาความขัดแยงอยางสันติวิธี

 ๒๗๖/๒๕๔๘   ก ร ณี ก า ร ป ร ะ ก า ศ        มาตรการแกไข
    อุทยานแหงชาติแกงกรุง

 รายงานผลการ  ทับซอนบานทับทหาร   ๑. ใหจังหวัดสุราษฎรธานีปรับปรุงองคประกอบคณะทำงานแกไขปญหาพื้นที่ปาไมจังหวัด
 ตรวจสอบที่   หมูที่  ๒๔  ต.ประสงค   สุราษฎรธานี ตามคำสั่งจังหวัดสุราษฎรธานี ที่ ๔/๒๕๔๔ ลงวันที่ ๒๔ สิงหาคม ๒๕๔๔ เรื่องแตงตั้งคณะ
 ๒๙๒/๒๕๕๐   อ.ทาชนะ   ทำงานระดับพื้นที่เพื่อแกไขปญหาพื้นที่ปาไม ในเขตอุทยานแหงชาติแกงกรุง อำเภอทาชนะ อำเภอไชยา
 ลงวันที่   จ.สุราษฎรธานี   อำเภอทาฉาง กิ่งอำเภอวิภาวดี จังหวัดสุราษฎรธานี ซึ่งเปนคณะทำงานที่แตงตั้งภายใตมติคณะรัฐมนตรี
 ๑๔ ก.ย. ๒๕๕๐   เมื่อวันที่ ๓ เมษายน ๒๕๔๔ โดยใหราษฎรมีสวนรวมในการแกไขปญหาการซอนทับของพื้นที่อุทยาน
                แหงชาติแกงกรุงและที่ดินทำกิน ที่อยูอาศัยของชุมชนบานทับทหาร รวมทั้งการแกไขปญหาพื้นที่ปาถูก
                บุกรุกทำลายภายในเวลา ๓๐ วัน นับตั้งแตไดรับรายงานฉบับนี้










                                                                              เสียงจากประชาชน
                                                     “ที่ดินในเขตปาและสิทธิชุมชนในการจัดการที่ดินและปา”   113
   109   110   111   112   113   114   115   116   117   118   119