Page 60 - รายงานฉบับสมบูรณ์ ฉบับย่อ โครงการศึกษาวิจัยเพื่อจัดทำข้อเสนอแนะนโยบายหรือมาตรการเพื่อคุ้มครองและส่งเสริมสิทธิของผู้สูงอายุ: กรณีการเลือกปฏิบัติในผู้สูงอายุ
P. 60
52 | รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์ (Final Report) (ฉบับย่อ)
ที่บัญญัติไว้ในพระราชบัญญัติสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. 2550 ใช้บังคับได้อย่างมีประสิทธิภาพและเกิดประโยชน์
ต่อผู้สูงอายุอย่างเต็มที่ เช่น การจัดให้มีการตรวจสุขภาพประจ าปีให้แก่ผู้สูงอายุอย่างทั่วถึง แม้รัฐธรรมนูญและ
พระราชบัญญัติผู้สูงอายุ พ.ศ. 2546 จะให้การรับรองสิทธิของผู้สูงอายุในการได้รับบริการทางการแพทย์และ
สาธารณสุข แต่กฎหมายที่มีอยู่ก็ยังคงไม่สอดคล้องและตอบสนองต่อนโยบายตามแผนผู้สูงอายุแห่งชาติทั้งหมด
รวมทั้งไม่มีการส่งเสริมให้เอกชนและชุมชนมีส่วนร่วมในการพัฒนาสุขภาพและการจัดบริการสาธารณสุขให้แก่
ผู้สูงอายุ
(2) ปัญหาความทั่วถึงและครอบคลุมของการเข้าถึงสิทธิด้านบริการสุขภาพแก่ผู้สูงอายุ
แม้ว่าการเข้าถึงสิทธิทางสุขภาพของผู้สูงอายุมีทิศทางที่ดีขึ้นกว่าในอดีต แต่ยังพบปัญหาความ
ครอบคลุมของบริการสุขภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการรับรู้สิทธิ ผู้สูงอายุส่วนใหญ่รับรู้สิทธิ เช่น การเยี่ยมบ้าน
การรักษาฟรีในกรณีที่แพทย์วินิจฉัยว่าป่วย แต่ไม่ทราบว่าตนสามารถรับบริการอย่างอื่นที่มีค่าใช้จ่ายสูงได้
เช่น ฟอกเลือด ล้างไต เคมีบ าบัด หรือการผ่าตัดหัวใจ เป็นต้น และไม่ทราบว่าตนจะต้องไปลงทะเบียนรับสิทธิ
ที่ใด หากไม่ไปโรงพยาบาลก็จะไม่ทราบ จึงเป็นประเด็นที่ต้องให้ความส าคัญในการสร้างความรับรู้เรื่องสิทธิที่
พึงได้รับ และขอบเขตที่สามารถใช้ได้
นอกจากนี้ยังมีผู้สูงอายุบางกลุ่มที่ไม่ได้รับข้อมูลหรือหน่วยงานรัฐยังเข้าไปให้บริการไม่ทั่วถึง
โดยเฉพาะเมื่อเปรียบเทียบระหว่างผู้สูงอายุในเขตเมืองกับในชนบท ข้อมูลจากการสัมภาษณ์และการประชุม
รับฟังความคิดเห็นพบว่า แม้ในเขตเมืองจะมีหน่วยบริการขนาดใหญ่ที่มีแพทย์และอุปกรณ์การแพทย์ที่
ครบถ้วนกว่าในเขตชนบท แต่ในด้านของผู้สูงอายุแล้ว ในเขตชนบทมีการดูแลผู้สูงอายุที่ดีกว่า เนื่องจากความ
เป็นสังคมชนบท มีโครงสร้างครอบครัวแบบขยาย มีลูกหลานหรือเพื่อบ้านที่มีความใกล้ชิด แม้ว่าผู้สูงอายุ
อยู่บ้านตามล าพังแต่ยังมีเพื่อนบ้านที่สามารถช่วยเหลือได้
ในขณะที่ผู้สูงอายุในเขตเมืองที่อยู่ในครอบครัวเดี่ยวเป็นกลุ่มที่บริการสุขภาพจากรัฐเข้าถึง
น้อยที่สุด และเป็นกลุ่มที่น่าเป็นห่วงมากที่สุดเช่น ในหมู่บ้านจัดสรรหรือในชุมชนต่าง ๆ เนื่องจากเวลากลางวัน
ที่ลูกหลานออกไปท างาน ผู้สูงอายุเหล่านี้จะถูกทิ้งไว้อยู่ในบ้านโดยล าพัง ผู้สูงอายุที่อยู่ตามล าพังขาดคนดูแล
เพื่อนบ้านออกไปท างาน หากเป็นครอบครัวชนชั้นกลางที่มีฐานะทางเศรษฐกิจดีอาศัยอยู่ในหมู่บ้านจัดสรร
อาจจะไม่น่าห่วงกังวลเท่าครอบครัวที่ฐานะทางเศรษฐกิจไม่สู้ดี หรือพื้นที่อาศัยเป็นชุมชนแออัดการได้รับ
การดูแล ตลอดจนการเข้าถึงบริการทางสุขภาพแทบเป็นไปไม่ได้ ต่างจากในชนบทซึ่งมีลักษณะครอบครัวขยาย
และมีเพื่อนบ้านในชุมชนที่คอยดูแลผู้สูงอายุเหล่านี้และการลงพื้นที่ของหน่วยบริการสาธารณสุขก็ท าได้มี
ประสิทธิภาพมากกว่าเนื่องจากมีญาติของผู้สูงอายุอยู่ที่บ้านด้วย
ข้อมูลจากการส ารวจความคิดเห็นโดยแบบสอบถามพบว่า ผู้สูงอายุส่วนใหญ่มีปัญหาการ
เข้าถึงบริการด้านสุขภาพเนื่องจากกระบวนการขั้นตอนมีความยุ่งยาก มีค่าใช้จ่ายสูง ได้รับการปฏิบัติอย่างมี
อคติจากผู้ให้บริการ และมีปัญหาในการเดินทางเพื่อไปรับการรักษายังสถานพยาบาล ซึ่งปัญหาประการนี้ย่อม
เป็นข้อบ่งชี้ได้อย่างชัดเจนว่า ภาครัฐจ าเป็นต้องปรับเพิ่มระบบการดูแลผู้สูงอายุในชุมชนที่ประสบปัญหาใน
การเดินทางไปรับการรักษายังสถานพยาบาล