Page 69 - กฎหมายและระเบียบงานด้านการคุ้มครองสิทธิมนุษยชน
P. 69

ครั้งนั้นได้ โดยให้มีการตรวจสอบในวันนั้นต่อไป และให้บันทึกเหตุดังกล่าวไว้ในส านวนด้วย ทั้งนี้ ไม่ตัดสิทธิ

                  คู่กรณีหรือพยานที่จะน าทนายความหรือที่ปรึกษาเข้าร่วมการตรวจสอบครั้งต่อไป
                         ในการให้ถ้อยค าของคู่กรณีหรือพยานฝ่ายหนึ่ง คู่กรณีหรือพยานอีกฝ่ายหนึ่ง รวมทั้งทนายความ
                  หรือที่ปรึกษาของฝ่ายดังกล่าวจะเข้ารับฟังไม่ได้ เว้นแต่คณะกรรมการ กรรมการ หรือพนักงานเจ้าหน้าที่

                  จะก าหนดเป็นอย่างอื่น

                         ข้อ ๒๗ ในการรับฟังถ้อยค าของคู่กรณีหรือพยานซึ่งเป็นเด็กหรือเยาวชน คณะกรรมการ กรรมการ

                  หรือพนักงานเจ้าหน้าที่ อาจจัดให้มีนักจิตวิทยาหรือนักสังคมสงเคราะห์เข้าร่วมในการรับฟังถ้อยค าด้วย
                  ตามสมควรแก่กรณี


                         ข้อ ๒๘ ในการตรวจสอบเพื่อให้ได้มาซึ่งข้อเท็จจริง หากมีกรณีที่จะต้องขอหมายของศาล
                  เพื่อเข้าไปในเคหสถานหรือสถานที่ซึ่งมิได้อยู่ในความครอบครองของหน่วยงานของรัฐ และเจ้าของ
                  หรือผู้ครอบครองไม่ยินยอม ให้กรรมการหรือพนักงานเจ้าหน้าที่ตามมาตรา ๓๕ วรรคสาม เสนอ

                  คณะกรรมการเพื่อพิจารณาและมอบอ านาจให้กรรมการหรือพนักงานเจ้าหน้าที่นั้น เป็นผู้ยื่นค าร้อง
                  หรือด าเนินกระบวนการพิจารณาใด ๆ เกี่ยวกับการขอออกหมายค้นต่อศาล ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์

                  และวิธีการที่ก าหนดไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
                         การมอบอ านาจตามวรรคหนึ่ง ให้จัดท าเป็นหนังสือตามแบบที่คณะกรรมการก าหนด
                  ทั้งนี้ คณะกรรมการอาจมอบหมายให้กรรมการคนหนึ่งคนใดเป็นผู้ลงนามในหนังสือมอบอ านาจก็ได้


                         ข้อ ๒๙ ในการเข้าไปในเคหสถานหรือสถานที่ตามข้อ ๒๘ ให้ด าเนินการต่อหน้าผู้ครอบครอง
                  หรือดูแลสถานที่ หรือผู้ซึ่งเกี่ยวข้อง ในกรณีที่หาบุคคลดังกล่าวไม่ได้ ก็ให้ด าเนินการต่อหน้าบุคคลอื่น

                  อย่างน้อยสองคน ซึ่งได้ขอร้องให้มาเป็นพยาน ในการนี้ ให้ผู้ครอบครอง หรือดูแลสถานที่ หรือผู้ซึ่งเกี่ยวข้อง
                  ให้ความร่วมมือเพื่อให้การปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าวเป็นไปโดยสะดวก

                         ข้อ ๓๐ ในกรณีที่บุคคลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่ได้ชี้แจงข้อเท็จจริงหรือส่งพยานหลักฐาน
                  ภายในก าหนดระยะเวลาตามข้อ ๒๓ วรรคสาม หรือกรณีที่บุคคลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่มาให้ถ้อยค า
                  ต่อคณะกรรมการ กรรมการ หรือพนักงานเจ้าหน้าที่ตามข้อ ๒๔ ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบค าร้อง

                  รายงานต่อคณะกรรมการพร้อมความเห็นว่า ข้อเท็จจริง พยานหลักฐาน หรือถ้อยค าของบุคคลหรือ
                  หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดังกล่าว มีความจ าเป็นต้องใช้ประกอบการพิจารณาหรือไม่เพียงใด ทั้งนี้ เพื่อประกอบ

                  การพิจารณาออกค าสั่งให้บุคคลหรือหน่วยงานนั้นด าเนินการตามมาตรา ๓๕ วรรคสอง (๑)
                         ค าสั่งตามวรรคหนึ่ง ให้เป็นไปตามแบบที่คณะกรรมการก าหนด
                         ในกรณีที่บุคคลหรือหน่วยงานไม่ปฏิบัติตามค าสั่งของคณะกรรมการตามมาตรา ๓๕ วรรคสอง (๑)

                  โดยไม่มีเหตุอันสมควร ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบค าร้องรายงานต่อคณะกรรมการเพื่อพิจารณา
                  ต่อไป

                         เพื่อให้การตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชนเป็นไปโดยไม่ล่าช้า หากคณะกรรมการพิจารณา
                  ตามวรรคหนึ่งแล้วเห็นว่า ข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานที่มีอยู่เพียงพอที่จะใช้ประกอบการพิจารณา
                  ต่อไปได้ ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบค าร้องด าเนินการตรวจสอบและจัดท ารายงานผลการตรวจสอบ

                  ต่อไปตามข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานเท่าที่มีอยู่







                                                                                                                  63
   64   65   66   67   68   69   70   71   72   73   74