Page 68 - กฎหมายและระเบียบงานด้านการคุ้มครองสิทธิมนุษยชน
P. 68

ข้อ ๒๓ เมื่อพนักงานเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบค าร้องได้รับมอบหมายแล้ว ให้ด าเนินการตรวจสอบ

                  เพื่อให้ได้มาซึ่งข้อเท็จจริงตามมาตรา ๓๕ ให้แล้วเสร็จภายในเก้าสิบวันนับแต่วันที่ได้รับมอบหมาย
                         ในการตรวจสอบตามวรรคหนึ่ง หากเป็นการขอให้บุคคลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีหนังสือ
                  ชี้แจงข้อเท็จจริงหรือส่งเอกสารหลักฐาน ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบค าร้องสรุปรายละเอียด

                  ข้อเท็จจริงตามค าร้องให้เพียงพอแก่การชี้แจงได้โดยถูกต้องครบถ้วนด้วย เว้นแต่เป็นปัญหาข้อกฎหมาย
                  หรือเป็นปัญหาข้อเท็จจริงแต่ไม่มีความจ าเป็นที่ต้องตรวจสอบอีก พร้อมทั้งก าหนดระยะเวลาในการ

                  ชี้แจงข้อเท็จจริงหรือส่งเอกสารหลักฐาน แล้วแจ้งให้บุคคลหรือหน่วยงานดังกล่าวทราบด้วย
                         ในกรณีที่ไม่อาจชี้แจงข้อเท็จจริงหรือส่งเอกสารหลักฐานได้ทันภายในระยะเวลาที่ก าหนด
                  ตามวรรคสอง บุคคลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจขอขยายระยะเวลาต่อคณะกรรมการได้ครั้งละไม่เกิน

                  สิบห้าวันนับแต่วันที่ครบก าหนด แต่ให้ขอขยายได้ไม่เกินสองครั้ง

                         ข้อ ๒๔ ในกรณีที่ต้องให้บุคคลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาให้ถ้อยค าต่อคณะกรรมการ กรรมการ

                  หรือพนักงานเจ้าหน้าที่ ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบค าร้องแจ้งบุคคลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนั้น
                  ทราบล่วงหน้าไม่น้อยกว่าเจ็ดวัน เว้นแต่กรณีจ าเป็นเร่งด่วน อาจแจ้งก าหนดวันนัดตรวจสอบล่วงหน้า

                  ตามที่คณะกรรมการ กรรมการ หรือพนักงานเจ้าหน้าที่ แล้วแต่กรณี เห็นสมควร
                         ในวันนัดตรวจสอบ บุคคลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีสิทธิชี้แจงเป็นหนังสือหรือด้วยวาจาก็ได้
                  ในกรณีเป็นการชี้แจงเป็นหนังสือ คณะกรรมการ กรรมการ หรือพนักงานเจ้าหน้าที่ แล้วแต่กรณี

                  อาจสอบถามข้อเท็จจริงเพิ่มเติมได้
                         หากไม่อาจมาปรากฏตัวต่อหน้าคณะกรรมการ กรรมการ หรือพนักงานเจ้าหน้าที่ ตามวรรคหนึ่งได้

                  บุคคลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมอบอ านาจเป็นหนังสือให้มีผู้แทนมาด าเนินการได้ ทั้งนี้ การด าเนินการ
                  ของผู้แทนดังกล่าวให้ถือเป็นการด าเนินการของบุคคลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนั้น
                         บันทึกการให้ถ้อยค าตามข้อนี้ ให้เป็นไปตามแบบที่คณะกรรมการก าหนด


                         ข้อ ๒๕ ในกรณีที่บุคคลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องมาปรากฏตัวต่อหน้าคณะกรรมการ
                  กรรมการ หรือพนักงานเจ้าหน้าที่ เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงในฐานะพยาน ต้องแจ้งให้บุคคลหรือหน่วยงาน

                  ที่เกี่ยวข้องดังกล่าวทราบว่า กรรมการหรือพนักงานเจ้าหน้าที่ แล้วแต่กรณี เป็นเจ้าพนักงานตามประมวล
                  กฎหมายอาญาและการให้ถ้อยค าอันเป็นเท็จอาจเป็นความผิดตามกฎหมาย
                         ถ้าบุคคลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องฝ่ายใดจ าเป็นต้องใช้ล่ามหรือสื่ออื่น เพื่อให้สามารถเข้าใจ

                  หรือให้ถ้อยค าได้ ให้บุคคลหรือหน่วยงานดังกล่าวแจ้งถึงเหตุนั้นให้ส านักงานทราบล่วงหน้าก่อนถึงวันนัด
                  เพื่อจัดหาล่ามหรือสื่ออื่นให้


                         ข้อ ๒๖ คู่กรณีและพยานมีสิทธิน าทนายความหรือที่ปรึกษาของตนเข้ามาในกระบวนการ
                  ตรวจสอบได้ ทั้งนี้ การใดที่ทนายความหรือที่ปรึกษาได้ท าลงต่อหน้าคู่กรณีหรือพยาน ให้ถือว่าเป็น

                                                                                                          ๑๒
                  การกระท าของคู่กรณีหรือพยาน แล้วแต่กรณี เว้นแต่คู่กรณีหรือพยานจะได้คัดค้านเสียแต่ในขณะนั้น
                         ในระหว่างการตรวจสอบ หากคณะกรรมการ กรรมการ หรือพนักงานเจ้าหน้าที่ เห็นว่าทนายความ
                  หรือที่ปรึกษาของคู่กรณีหรือพยานมีพฤติการณ์หรือความประพฤติไม่เหมาะสม คณะกรรมการ กรรมการ

                  หรือพนักงานเจ้าหน้าที่ นั้น อาจไม่อนุญาตให้ทนายความหรือที่ปรึกษาเข้าร่วมในกระบวนการตรวจสอบ


                         ๑๒  ข้อ ๒๖ วรรคหนึ่ง แก้ไขเพิ่มเติมโดยระเบียบคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการ
                  ในการตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชน (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๓



                                                                                                                  62
   63   64   65   66   67   68   69   70   71   72   73