Page 31 - กฎหมายและระเบียบงานด้านการคุ้มครองสิทธิมนุษยชน
P. 31
-๗-
เป็นประธานกรรมการแล้วแจ้งผลให้ประธานวุฒิสภาทราบในกรณีที่ผู้ซึ่งวุฒิสภาให้ความเห็นชอบยังได้
ไม่ครบจ านวนที่ต้องสรรหา แต่เมื่อรวมกับกรรมการซึ่งยังด ารงต าแหน่งอยู่ ถ้ามี มีจ านวนถึงห้าคน
ก็ให้ด าเนินการประชุมเพื่อเลือกประธานกรรมการได้ และเมื่อโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งแล้ว
ให้คณะกรรมการด าเนินการตามหน้าที่และอ านาจต่อไปพลางก่อนได้ โดยในระหว่างนั้นให้ถือว่า
คณะกรรมการประกอบด้วยกรรมการเท่าที่มีอยู่ และให้ด าเนินการสรรหาเพิ่มเติมให้ครบตามจ านวน
ที่ต้องสรรหาต่อไปโดยเร็ว
ให้ประธานวุฒิสภาน าความกราบบังคมทูลเพื่อทรงแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการ และ
เป็นผู้ลงนามรับสนองพระบรมราชโองการ
มาตรา ๑๕ ผู้ได้รับความเห็นชอบจากวุฒิสภาให้เป็นกรรมการโดยที่ยังมิได้พ้นจากต าแหน่ง
ตามมาตรา ๑๐ (๒๐) (๒๑) หรือ (๒๒) หรือยังประกอบวิชาชีพตามมาตรา ๑๐ (๒๓) อยู่
ต้องแสดงหลักฐานว่าได้ลาออกหรือเลิกประกอบวิชาชีพดังกล่าวแล้ว ต่อประธานวุฒิสภาภายในเวลา
ที่ประธานวุฒิสภาก าหนด ซึ่งต้องเป็นเวลาก่อนที่ประธานวุฒิสภาจะน าความกราบบังคมทูลเพื่อทรงแต่งตั้ง
กรรมการ ในกรณีที่ไม่ได้แสดงหลักฐานภายในก าหนดเวลาดังกล่าว ให้ถือว่าผู้นั้นสละสิทธิ และให้
ด าเนินการสรรหาใหม่
มาตรา ๑๖ ในกรณีที่มีปัญหาเกี่ยวกับคุณสมบัติหรือลักษณะต้องห้ามของผู้สมัครหรือ
ผู้ได้รับการสรรหา ให้เป็นหน้าที่และอ านาจของคณะกรรมการสรรหาเป็นผู้วินิจฉัย ค าวินิจฉัยของ
คณะกรรมการสรรหาให้เป็นที่สุด
การเสนอเรื่องเพื่อให้คณะกรรมการสรรหาวินิจฉัยตามวรรคหนึ่ง ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์
และวิธีการที่คณะกรรมการสรรหาก าหนด
การวินิจฉัย ให้ใช้วิธีลงคะแนนโดยเปิดเผย
ให้น าความในวรรคหนึ่ง วรรคสอง และวรรคสาม มาใช้บังคับแก่กรณีที่มีปัญหาเกี่ยวกับ
คุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของกรรมการสรรหาด้วยโดยอนุโลม แต่กรรมการสรรหาที่ถูกกล่าวหาว่า
ขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ามจะอยู่ในที่ประชุมในขณะพิจารณาและวินิจฉัยมิได้
มาตรา ๑๗ ให้ประธานกรรมการสรรหาและกรรมการสรรหาได้รับเบี้ยประชุมและ
ค่าตอบแทนอื่นตามที่ประธานวุฒิสภาก าหนด แต่ส าหรับเบี้ยประชุมให้ก าหนดให้ได้รับเป็นรายครั้ง
ที่มาประชุมในอัตราไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของประธานกรรมการหรือกรรมการในคณะกรรมการข้าราชการ
รัฐสภาตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการรัฐสภาได้รับในแต่ละเดือน แล้วแต่กรณี
มาตรา ๑๘ การน าคดีอันเกี่ยวเนื่องกับการได้มา คุณสมบัติ ลักษณะต้องห้าม หรือ
การพ้นจากต าแหน่งของกรรมการสรรหาไปสู่ศาลปกครอง ไม่เป็นเหตุให้ทุเลาการปฏิบัติตามค าวินิจฉัย
ของคณะกรรมการสรรหา และมิให้น าบทบัญญัติว่าด้วยมาตรการหรือวิธีการชั่วคราวตามกฎหมาย
ว่าด้วยการจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครองมาใช้บังคับ
มาตรา ๑๙ กรรมการมีวาระการด ารงต าแหน่งเจ็ดปีนับแต่วันที่พระมหากษัตริย์ทรงแต่งตั้ง
และให้ด ารงต าแหน่งได้เพียงวาระเดียว
25