Page 28 - กฎหมายและระเบียบงานด้านการคุ้มครองสิทธิมนุษยชน
P. 28

-๔-

                            (๑๐) เคยถูกสั่งให้พ้นจากราชการ หน่วยงานของรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจเพราะทุจริตต่อหน้าที่
                  หรือถือว่ากระท าการทุจริตหรือประพฤติมิชอบในวงราชการ
                            (๑๑) เคยต้องค าพิพากษาหรือค าสั่งของศาลอันถึงที่สุดให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดินเพราะ

                  ร่ ารวยผิดปกติ หรือเคยต้องค าพิพากษาอันถึงที่สุดให้ลงโทษจ าคุก เพราะกระท าความผิดตามกฎหมาย
                  ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต

                            (๑๒) เคยต้องค าพิพากษาอันถึงที่สุดว่ากระท าความผิดต่อต าแหน่งหน้าที่ราชการ หรือ
                  ต่อต าแหน่งหน้าที่ในการยุติธรรม หรือกระท าความผิดตามกฎหมายว่าด้วยความผิดของพนักงาน
                  ในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ หรือความผิดเกี่ยวกับทรัพย์ที่กระท าโดยทุจริตตามประมวลกฎหมาย

                  อาญา ความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน กฎหมายว่าด้วยยาเสพติด
                  ในความผิดฐานเป็นผู้ผลิต น าเข้า ส่งออก หรือผู้ค้า กฎหมายว่าด้วยการพนันในความผิดฐานเป็นเจ้ามือ

                  หรือเจ้าส านักกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ หรือกฎหมายว่าด้วยการป้องกัน
                  และปราบปรามการฟอกเงินในความผิดฐานฟอกเงิน
                            (๑๓) เคยต้องค าพิพากษาอันถึงที่สุดว่ากระท าการอันเป็นการทุจริตในการเลือกตั้ง

                            (๑๔) อยู่ในระหว่างต้องห้ามมิให้ด ารงต าแหน่งทางการเมือง
                            (๑๕) เคยพ้นจากต าแหน่งเพราะศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่ามีการเสนอ การแปรญัตติ หรือการ

                  กระท าด้วยประการใด ๆ ที่มีผลให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสมาชิกวุฒิสภา หรือกรรมาธิการมีส่วน
                  ไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อมในการใช้งบประมาณรายจ่าย
                            (๑๖) เคยพ้นจากต าแหน่งเพราะศาลฎีกาหรือศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ด ารงต าแหน่ง

                  ทางการเมืองมีค าพิพากษาว่าเป็นผู้มีพฤติการณ์ร่ ารวยผิดปกติ หรือกระท าความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่
                  หรือจงใจปฏิบัติหน้าที่หรือใช้อ านาจขัดต่อบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ หรือกฎหมาย หรือฝ่าฝืนหรือ

                  ไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง
                            (๑๗) เคยได้รับโทษจ าคุกโดยค าพิพากษาถึงที่สุดให้จ าคุก เว้นแต่ในความผิดอันได้กระท า
                  โดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ

                            (๑๘) เป็นหรือเคยเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภา ข้าราชการการเมือง หรือ
                  สมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่นในระยะสิบปีก่อนเข้ารับการสรรหา

                            (๑๙) เป็นหรือเคยเป็นสมาชิกหรือผู้ด ารงต าแหน่งอื่นของพรรคการเมืองในระยะสิบปีก่อนเข้ารับ
                  การสรรหา

                            (๒๐) เป็นข้าราชการซึ่งมีต าแหน่งหรือเงินเดือนประจ า
                            (๒๑) เป็นพนักงานหรือลูกจ้างของหน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ หรือราชการส่วนท้องถิ่น หรือ
                  กรรมการหรือที่ปรึกษาของหน่วยงานของรัฐหรือรัฐวิสาหกิจ

                            (๒๒) เป็นผู้ด ารงต าแหน่งใดในห้างหุ้นส่วนบริษัท หรือองค์กรที่ด าเนินธุรกิจโดยมุ่งหาผลก าไร
                  หรือรายได้มาแบ่งปันกัน หรือเป็นลูกจ้างของบุคคลใด

                            (๒๓) เป็นผู้ประกอบวิชาชีพอิสระ
                            (๒๔) มีพฤติการณ์อันเป็นการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง
                            (๒๕) เป็นผู้ที่มีประวัติการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างชัดแจ้ง








                                                                                                                  22
   23   24   25   26   27   28   29   30   31   32   33