Page 30 - กฎหมายและระเบียบงานด้านการคุ้มครองสิทธิมนุษยชน
P. 30

-๖-

                            ให้ประธานกรรมการสรรหาและกรรมการสรรหาเป็นเจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายอาญา

                            มาตรา ๑๓ ในการสรรหากรรมการ ให้คณะกรรมการสรรหาปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเที่ยงธรรม
                  ไม่เลือกปฏิบัติ และปราศจากอคติทั้งปวง โดยอย่างน้อยการสรรหาต้องมีกระบวนการ ดังต่อไปนี้

                            (๑) ประกาศให้ประชาชนทราบเป็นการทั่วไปถึงกระบวนการสรรหากรรมการ โดยอย่างน้อย
                  ต้องระบุจ านวนต าแหน่งกรรมการที่จะสรรหา หลักเกณฑ์ วิธีการ และระยะเวลาที่จะใช้ในการสรรหา

                  ทุกขั้นตอน และเพื่อประโยชน์แห่งการนี้ ให้คณะกรรมการสรรหาใช้วิธีการสัมภาษณ์หรือให้แสดงความคิดเห็น
                  ในเรื่องที่เกี่ยวกับหน้าที่และอ านาจของคณะกรรมการ หรือวิธีการอื่นใดที่เหมาะสม เพื่อประกอบ
                  การพิจารณาด้วย

                            (๒) การสรรหากรรมการให้กระท าโดยการประกาศรับสมัครหรือการเสนอชื่อบุคคล
                  ซึ่งมีความเหมาะสมทั่วไปเพื่อเข้ารับการสรรหาซึ่งต้องกระท าโดยเปิดเผย โดยในการเสนอชื่อบุคคล

                  เพื่อเข้ารับการสรรหาจะต้องได้รับความยินยอมของบุคคลนั้นด้วย และให้มีการประกาศรายชื่อบุคคล
                  ที่จะเข้ารับการสรรหาให้ประชาชนทราบเป็นการทั่วไป เพื่อรับฟังข้อมูลเกี่ยวกับความเหมาะสมของผู้เข้ารับ
                  การสรรหาดังกล่าวเพื่อประกอบการพิจารณา ในการสรรหาด้วย

                            (๓) ในการสรรหา ให้คณะกรรมการสรรหาปรึกษาหารือเพื่อคัดสรรให้ได้บุคคลซึ่งมี
                  ความรับผิดชอบสูง มีความกล้าหาญในการปฏิบัติหน้าที่ และมีพฤติกรรม ทางจริยธรรมเป็นตัวอย่างที่ดี

                  ของสังคม มีทัศนคติที่เหมาะสมในการปฏิบัติหน้าที่ให้เกิดผลส าเร็จ รวมตลอดทั้งค านึงถึงการมีส่วนร่วม
                  ของทั้งหญิงและชาย และส่งเสริมความเป็นพหุสังคม และให้คณะกรรมการสรรหาส่งข้อมูลที่ใช้
                  ในการพิจารณาคัดสรรไปยังวุฒิสภาเพื่อประกอบการพิจารณาด้วย

                            การก าหนดระยะเวลาตามวรรคหนึ่ง ต้องเพียงพอที่จะเปิดโอกาสให้บุคคลสามารถสมัครหรือ
                  เสนอชื่อบุคคลเพื่อเข้ารับการสรรหาได้อย่างทั่วถึง และท าให้กรรมการสรรหาสามารถพิจารณาคัดสรร

                  บุคคลให้ด ารงต าแหน่งได้อย่างเหมาะสมและมีประสิทธิภาพ
                            ในการสรรหา ให้ใช้วิธีลงคะแนนโดยเปิดเผยและให้กรรมการสรรหาแต่ละคนบันทึกเหตุผล

                  ในการเลือกไว้ด้วย
                            ผู้ซึ่งจะได้รับการสรรหาต้องได้รับคะแนนเสียงถึงสองในสามของจ านวนทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของ
                  คณะกรรมการสรรหา

                            ถ้าไม่มีบุคคลใดได้รับคะแนนเสียงตามวรรคสี่ หรือมีแต่ยังไม่ครบจ านวนที่จะต้องสรรหา ให้มี
                  การลงคะแนนใหม่ส าหรับผู้ได้คะแนนไม่ถึงสองในสาม ถ้ายังได้ไม่ครบตามจ านวนให้มีการลงคะแนน

                  อีกครั้งหนึ่ง ในกรณีที่การลงคะแนนครั้งหลังนี้ยังได้บุคคลไม่ครบ ตามจ านวนที่จะต้องสรรหาให้ด าเนินการ
                  สรรหาใหม่ส าหรับจ านวนที่ยังขาดอยู่

                            มาตรา ๑๔ ผู้ได้รับการสรรหาเพื่อแต่งตั้งให้ด ารงต าแหน่งกรรมการ ต้องได้รับความเห็นชอบ

                  จากวุฒิสภาด้วยคะแนนเสียงไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจ านวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของวุฒิสภา
                            ในกรณีที่วุฒิสภาไม่ให้ความเห็นชอบผู้ได้รับการสรรหารายใด ให้ด าเนินการสรรหาบุคคลใหม่

                  แทนผู้นั้น แล้วเสนอต่อวุฒิสภาเพื่อให้ความเห็นชอบต่อไป โดยผู้ซึ่งไม่ได้รับความเห็นชอบจากวุฒิสภา
                  ในครั้งนี้จะเข้ารับการสรรหาในครั้งใหม่นี้ไม่ได้
                            เมื่อมีผู้ได้รับความเห็นชอบจากวุฒิสภาแล้ว หากเป็นกรณีที่ประธานกรรมการพ้นจากต าแหน่งด้วย

                  ให้ผู้ได้รับความเห็นชอบประชุมร่วมกับกรรมการซึ่งยังด ารงต าแหน่งอยู่ถ้ามี เพื่อเลือกกันเองให้คนหนึ่ง




                                                                                                                  24
   25   26   27   28   29   30   31   32   33   34   35