Page 145 - กฎหมายและระเบียบงานด้านการคุ้มครองสิทธิมนุษยชน
P. 145
๔
(๔) เป็นหรือเคยเป็นผู้แทนโดยชอบธรรม หรือผู้อนุบาล หรือผู้พิทักษ์ หรือผู้แทนหรือตัวแทน
ของคู่กรณี
(๕) เป็นเจ้าหนี้หรือลูกหนี้ของคู่กรณี
(๖) กรณีอื่นตามที่คณะกรรมการเห็นสมควร
ข้อ ๑๗ ในกรณีที่มีผู้คัดค้านว่ากรรมการผู้ใดมีลักษณะตามข้อ ๑๖ วรรคสี่ ให้มีการเรียกประชุม
คณะกรรมการเพื่อพิจารณาเหตุคัดค้านนั้น และเมื่อกรรมการผู้ถูกคัดค้านได้ชี้แจงข้อเท็จจริงและ
ตอบข้อซักถามแล้วให้ออกจากห้องประชุม โดยให้ถือว่าคณะกรรมการประกอบด้วยกรรมการที่เหลืออยู่
ถ้าที่ประชุมมีมติให้กรรมการผู้ถูกคัดค้านปฏิบัติหน้าที่ต่อไปด้วยคะแนนเสียงไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่ง
ของกรรมการที่เหลืออยู่ ก็ให้กรรมการผู้นั้นปฏิบัติหน้าที่ต่อไปได้ มติดังกล่าวให้กระท าโดยวิธีลงคะแนนลับ
และให้เป็นที่สุด
การคัดค้าน ให้ท าเป็นหนังสือพร้อมแสดงหลักฐานยื่นต่อประธานกรรมการ
ข้อ ๑๘ เมื่อที่ประชุมได้ลงมติไปแล้ว หากปรากฏภายหลังว่ากรรมการผู้ใดมีส่วนได้เสีย
ตามข้อ ๑๖ วรรคสี่ มติที่ประชุมย่อมไม่เสียไปเพราะเหตุดังกล่าว เว้นแต่คณะกรรมการจะเห็นสมควร
ด าเนินการอย่างหนึ่งอย่างใดเสียใหม่ก็ได้
ข้อ ๑๙ ความในข้อ ๑๖ วรรคสาม และข้อ ๑๗ ไม่ให้น ามาใช้บังคับแก่กรณีที่มีความจ าเป็น
เร่งด่วน หากปล่อยให้ล่าช้าไปจะเสียหายต่อประโยชน์สาธารณะ
ข้อ ๒๐ ถ้าประธานในที่ประชุมหรือกรรมการเสียงข้างมากที่มาประชุม เสนอให้ประชุมลับ
ก็ให้ด าเนินการประชุมลับ
ผู้ที่อยู่ในที่ประชุมลับได้ ได้แก่ กรรมการ เลขาธิการ และผู้ที่ได้รับอนุญาตจากที่ประชุม
ข้อ ๒๑ ในการประชุม ให้ด าเนินการประชุมตามล าดับระเบียบวาระการประชุมที่จัดไว้ เว้นแต่
ที่ประชุมจะมีมติเป็นอย่างอื่น
เรื่องที่จัดตามระเบียบวาระการประชุมแล้ว กรรมการหรือส านักงานจะถอนเรื่องออกจากวาระ
การประชุมได้ต่อเมื่อที่ประชุมมีมติอนุญาตและให้บันทึกเหตุผลไว้ในรายงานการประชุมด้วย
ในกรณีมีเรื่องเร่งด่วนใดนอกเหนือจากที่จัดไว้ในระเบียบวาระการประชุม ที่ประชุมอาจมีมติ
ให้น าเรื่องเร่งด่วนนั้นมาพิจารณาเพิ่มเติมได้ โดยให้บันทึกความเห็นไว้ในรายงานการประชุมด้วย
ข้อ ๒๒ ในระหว่างการประชุม ห้ามมิให้ผู้ใดบันทึกเสียงหรือภาพ หรือเผยแพร่ข้อมูล
ในการประชุมด้วยเครื่องมือใดๆ เว้นแต่เพื่อประโยชน์ในการจัดท ารายงานการประชุม หรือเพื่อประโยชน์
ของทางราชการ โดยได้รับอนุญาตจากที่ประชุม
ในกรณีมีการบันทึกเสียงหรือภาพเพื่อประโยชน์ในการจัดท ารายงานการประชุมให้เก็บรักษา
ข้อมูลเสียงหรือภาพที่บันทึกไว้จนกว่าที่ประชุมได้พิจารณารับรองรายงานการประชุมครั้งนั้นแล้ว
จึงจะท าลายหรือลบข้อมูลเสียงหรือภาพดังกล่าวได้
หมวด ๓
การลงมติและการทบทวนมติ
139