Page 22 - รายงานสรุปผลการดำเนินโครงการฝึกอบรมหลักสูตรการคุ้มครองการละเมิดสิทธิชุมชน สิทธิในที่ดิน ทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม สำหรับเจ้าหน้าที่สำนักงาน กสม. ระหว่างวันที่ 19-23 สิงหาคม 2566 ณ โรงแรมกรุงศรีริเวอร์ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
P. 22
๒๐
๕.3 การเจรจาต่อรองทั้งสองฝ่ายหรือมากกว่า มีการเจรจาเชิงโครงสร้างเกี่ยวกับข้อขัดแย้ง
เพื่อระบุทางเลือกที่เป็นไปได้ส าหรับการแก้ไขร่วมกัน
๕.4 การไกล่เกลี่ย
- เหมือนกับการเจรจา แต่มีบุคคลที่สามโดยเฉพาะที่ท าหน้าที่เป็นคนกลางเพื่อช่วยให้
ฝ่ายต่าง ๆ ชี้แจงปัญหาและระบุวิธีแก้ปัญหาที่เป็นไปได้
- ผู้ไกล่เกลี่ยจะเขียนสัญญาซึ่งระบุการด าเนินการที่จ าเป็นและกรอบเวลาที่ตกลงกันไว้
ส าหรับคู่สัญญาที่ขัดแย้งกัน
- สัญญาอาจอยู่ในรูปแบบ เช่น ข้อตกลงการใช้ทรัพยากรหรือกฎของคณะกรรมการ
Module 7 การวินิจฉัยกรณีละเมิดสิทธิมนุษยชนและการจัดท าข้อเสนอแนะมาตรการ
หัวข้อวิชา : แนวค าวินิจฉัยของศาลปกครองกับสิทธิในที่ดินและสิทธิชุมชนกับสิ่งแวดล้อม
การแลกเปลี่ยนความคิดเห็น การวินิจฉัยและการจัดท าข้อเสนอแนะมาตรการ (กรณีที่เคย
ด าเนินการ, กรณีใหม่) รวมถึงการพัฒนากรอบมุมมอง หลักเกณฑ์ และข้อควรระวัง
ระยะเวลา : จ านวน 3 ชั่วโมง
วิทยากร : ดร.ชาญวิทย์ ชัยกันย์ ตุลาการศาลปกครองกลาง
ขอบเขตเนื้อหา :
ศึกษาตัวอย่างการวินิจฉัยกรณีละเมิดสิทธิมนุษยชนที่สร้างผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในชุมชน
ที่เกิดจากโครงการพัฒนาขนาดใหญ่ หรือการลุกล้ าพื้นที่สาธารณะของคนในชุมชนเอง เพื่อให้เข้าใจเหตุผล
และสิทธิในการเรียกร้องในข้อพิพาทของผู้ฟ้องคดี และออกค าวินิจฉัยของศาลไปตามข้อกฎหมายและ
ข้อเท็จจริง การแบ่งกลุ่มวิเคราะห์การใช้สิทธิตามกระบวนยุติธรรมในการเรียกร้องกรณีเกิดข้อพิพาทด้าน
สิทธิที่ดิน และสิทธิชุมชนในการจัดการทรัพยากรธรรมชาติ เพื่อเสนอแนะมาตรการป้องกันการละเมิดสิทธิ
มนุษยชนในอนาคต
สาระส าคัญ :
๑. แนวค าวินิจฉัยศาลปกครองสูงสุดเกี่ยวกับสิทธิชุมชนและสิ่งแวดล้อม
1.๑ กรณีข้อพิพาทโรงฟ้าชีวมวล ผู้ฟ้องคดีมีภูมิล าเนา มีที่ดิน ประกอบอาชีพหรืออยู่
อาศัยในพื้นที่พิพาทและเป็นสมาชิกกลุ่มสีคิ้วคัดค้านไม่เอาโรงไฟฟ้าชีวมวล มีวัตถุประสงค์เพื่ออนุรักษ์
สิ่งแวดล้อมในหมู่บ้านและตรวจสอบการด าเนินการโรงไฟฟ้าชีวมวล จึงมีสิทธิมีส่วนร่วมในการคุ้มครอง
ส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม รวมทั้งความหลากหลายทางชีวภาพอย่างสมดุลและยั่งยืน รวมทั้งมี
สิทธิได้รับข้อมูล ค าชี้แจง และเหตุผลจากหน่วยงานของรัฐ และสิทธิในการแสดงความคิดเห็นประกอบก่อน
การอนุญาตหรือการด าเนินโครงการหรือกิจกรรมที่อาจมีผลกระทบต่อคุณภาพสิ่งแวดล้อม สุขภาพอนามัย
คุณภาพชีวิตของบุคคลหรือชุมชนท้องถิ่น เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องน าไปใช้ประกอบการพิจารณาในเรื่อง
ดังกล่าว
๑.2 กรณีผู้ฟ้องคดีดัดแปลงขน าเป็นโฮมสเตย์ โดยเกิดจากเดิมผู้ฟ้องคดีใช้ขน าส าหรับ
ประกอบอาชีพท าประมง ต่อมาไม่ได้ใช้ท าประโยชน์เพื่อการประมงแล้ว แต่ใช้เป็นธุรกิจโฮมสเตย์เพื่อ
ให้บริการแก่นักท่องเที่ยว ท าให้วัตถุประสงค์และความส าคัญของการใช้ประโยชน์จากสิ่งปลูกสร้างของผู้
ฟ้องคดีเปลี่ยนแปลงไป ซึ่งแม้ว่ากรมเจ้าท่าอาจอนุญาตให้ปลูกสร้างอาคารหรือสิ่งอื่นใดล่วงล้ าล าน้ าก็ตาม
แต่เมื่อสิ่งปลูกสร้างของผู้ฟ้องคดีไม่ได้ใช้ประโยชน์เพื่อการอยู่อาศัยหรือเพื่อใช้ส าหรับประกอบอาชีพท า