Page 274 - กฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องกับคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2566)
P. 274
๑๑
ข้อ ๖๕ เมื่อผู้ยืมส่งหลักฐานการจ่ายและเงินเหลือจ่าย (ถ้ามี) ให้เจ้าหน้าที่การเงินผู้รับคืนบันทึก
การรับคืนในสัญญาการยืมเงิน พร้อมทั้งออกใบรับใบส าคัญและใบเสร็จรับเงิน (ถ้ามี) ตามแบบที่ส านักงาน
ก าหนดให้ผู้ยืมไว้เป็นหลักฐาน
ข้อ ๖๖ ในกรณีที่ผู้ยืมมิได้ช าระคืนเงินยืมภายในระยะเวลาที่ก าหนด ให้หน่วยเบิกจ่ายผู้ให้ยืมนั้น
เรียกให้ชดใช้เงินยืมตามเงื่อนไขในสัญญาการยืมเงินให้เสร็จสิ้นไปโดยเร็ว อย่างช้าไม่เกินสามสิบวันนับแต่
วันครบก าหนด
กรณีผู้ยืมไม่อาจปฏิบัติตามวรรคหนึ่งได้ ให้หัวหน้าหน่วยเบิกจ่ายผู้ให้ยืมนั้นรายงานให้เลขาธิการ
ทราบ เพื่อพิจารณาสั่งการบังคับให้เป็นไปตามสัญญาการยืมเงินต่อไป
ข้อ ๖๗ ให้หน่วยเบิกจ่ายผู้ให้ยืมเก็บรักษาสัญญาการยืมเงินซึ่งยังมิได้ช าระคืนเงินยืมให้เสร็จสิ้น
ไว้ในที่ปลอดภัย อย่าให้สูญหายหรือช ารุดได้ และเมื่อผู้ยืมได้ช าระคืนเงินยืมเสร็จสิ้นแล้วให้เก็บรักษา
เช่นเดียวกับหลักฐานการจ่าย
หมวด ๔
การเก็บรักษาเงิน
ส่วนที่ ๑
สถานที่เก็บเงิน
ข้อ ๖๘ ให้ส านักงานจัดให้มีตู้นิรภัยส าหรับเก็บรักษาเงินและเอกสารแทนตัวเงินของส านักงาน
ไว้ที่หน่วยเบิกจ่ายและส านักงานพื้นที่ภูมิภาค และตั้งไว้ในที่ปลอดภัยในหน่วยเบิกจ่ายและส านักงาน
พื้นที่ภูมิภาคนั้น
ข้อ ๖๙ ตู้นิรภัย ให้มีกุญแจพร้อมรหัสสองชุด แต่ละชุดให้มีลูกกุญแจสองดอก โดยแต่ละดอก
ต้องมีลักษณะต่างกัน
ข้อ ๗๐ การเก็บรักษาลูกกุญแจตู้นิรภัยพร้อมรหัส ให้ถือปฏิบัติ ดังนี้
(๑) หัวหน้าหน่วยเบิกจ่ายหรือผู้อ านวยการกลุ่มงานบริหาร ส านักงานพื้นที่ภูมิภาค แล้วแต่กรณี
เป็นผู้เก็บรักษาลูกกุญแจพร้อมรหัสไว้ชุดหนึ่ง
(๒) กรรมการเก็บรักษาเงินเป็นผู้เก็บรักษาลูกกุญแจพร้อมรหัสไว้อีกชุดหนึ่ง
การเก็บรหัสตาม (๑) ให้บรรจุรหัสใส่ซองปิดผนึกและเก็บรักษาไว้พร้อมกับลูกกุญแจ
ส่วนที่ ๒
กรรมการเก็บรักษาเงิน
ข้อ ๗๑ ให้เลขาธิการพิจารณาแต่งตั้งข้าราชการอย่างน้อยสามคนเป็นกรรมการเก็บรักษาเงิน
ประจ าหน่วยเบิกจ่าย และแต่งตั้งข้าราชการอย่างน้อยสองคนเป็นกรรมการเก็บรักษาเงินประจ าส านักงาน
พื้นที่ภูมิภาค และแต่งตั้งกรรมการเก็บรักษาเงินส ารองในจ านวนเท่ากันเพื่อท าหน้าที่เป็นกรรมการเก็บ
รักษาเงินในกรณีกรรมการเก็บรักษาเงินไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ได้
261