Page 147 - กฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องกับคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2566)
P. 147
๓
(๔) ไม่เป็นข้าราชการซึ่งมีต าแหน่งหรือเงินเดือนประจ า พนักงานหรือลูกจ้างของหน่วยงานของรัฐ
หรือรัฐวิสาหกิจ หรือของราชการส่วนท้องถิ่น หรือเป็นเจ้าหน้าที่อื่นของรัฐ
(๕) ไม่เป็นบุคคลล้มละลาย
(๖) ไม่เป็นผู้มีความประพฤติเสื่อมเสีย หรือบกพร่องในศีลธรรมอันดี
(๗) ไม่เป็นคนไร้ความสามารถ หรือสติฟั่นเฟือนไม่สมประกอบ หรือมีร่างกายหรือจิตใจไม่เหมาะสม
ที่จะปฏิบัติหน้าที่
(๘) ไม่เป็นผู้อยู่ในระหว่างถูกสั่งพักงาน ถูกสั่งพักราชการ หรือถูกสั่งให้หยุดงานเป็นการชั่วคราว
ในลักษณะเดียวกับพักงานหรือพักราชการ
(๙) ไม่เป็นผู้เคยได้รับโทษจ าคุกโดยค าพิพากษาถึงที่สุดให้จ าคุกเพราะกระท าความผิดทางอาญา
เว้นแต่เป็นโทษส าหรับความผิดที่ได้กระท าโดยประมาท หรือความผิดลหุโทษ หรือเป็นผู้พ้นโทษมาแล้ว
เกินห้าปี
การจ้างบุคคลผู้พ้นโทษมาแล้วเกินห้าปีตามวรรคหนึ่งเข้าเป็นลูกจ้าง ต้องก าหนดให้บุคคลผู้นั้น
ยื่นหนังสือรับรองความประพฤติว่าไม่เป็นผู้บกพร่องในศีลธรรมอันดีจนเป็นที่น่ารังเกียจของสังคมตาม
แบบที่ส านักงานก าหนดเพื่อประกอบการพิจารณาด้วย
(๑๐) ไม่เป็นผู้เคยถูกลงโทษไล่ออก ปลดออก หรือให้ออกจากราชการ รัฐวิสาหกิจ หรือ
หน่วยงานอื่นของรัฐ เพราะกระท าผิดวินัย
(๑๑) ไม่เป็นผู้เคยถูกสั่งให้ออกจากราชการตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการพลเรือน
กรณีหย่อนความสามารถ บกพร่องในหน้าที่หรือประพฤติตนไม่เหมาะสม หรือกรณีมีมลทิน หรือมัวหมอง
ในกรณีที่ถูกสอบสวน
ในกรณีที่มีเหตุผลและความจ าเป็นเพื่อประโยชน์ของส านักงาน อาจจ้างลูกจ้างที่ขาดคุณสมบัติ
ตาม (๑) หรือ (๒) ได้ โดยได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการ
หมวด ๓
การจ้าง การแต่งตั้ง และการจัดท าและรักษาทะเบียนประวัติ
ข้อ ๙ การจ้างและแต่งตั้งบุคคลเป็นลูกจ้าง ให้ด าเนินการจ้างและแต่งตั้งจากผู้ที่ผ่านกระบวนการ
๖
สรรหาหรือคัดเลือกตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่คณะกรรมการก าหนด
ให้ตรวจสอบประวัติบุคคลที่ได้รับการจ้างเป็นลูกจ้างตามที่ส านักงานก าหนด
๖ ข้อ ๙ แก้ไขเพิ่มเติมโดยระเบียบคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติว่าด้วยลูกจ้างส านักงานคณะกรรมการ
สิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๓
135