Page 78 - รายงานผลการดำเนินงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ชุดที่ 3 (วันที่ 26 พฤศจิกายน 2558 ถึง 25 พฤษภาคม 2564)
P. 78

ทั้งนี้ กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน แจ้งว่า  กสม. จึงประสานการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนโดยส่งเรื่อง
            ได้ด�าเนินการตรวจสอบและด�าเนินการตามหน้าที่และ  ไปยังส�านักทะเบียนอ�าเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี พิจารณา
            อ�านาจแล้ว โดยพนักงานตรวจแรงงาน ส�านักงานสวัสดิการ  ด�าเนินการตามหน้าที่และอ�านาจต่อไป โดยอ�าเภอสวนผึ้ง
            และคุ้มครองแรงงานจังหวัดระยองได้รับค�าร้อง (คร.๗)  ได้นัดหมายให้ผู้ร้องไปให้ถ้อยค�าประกอบการสอบสวน
            ของผู้เสียหาย และได้มีค�าสั่งพนักงานตรวจแรงงานให้ เกี่ยวกับการส�ารวจและจัดท�าทะเบียนประวัติบุคคล
            บริษัทนายจ้างจ่ายเงินค่าชดเชย ค่าตอบแทนระหว่างหยุด  ที่ไม่มีสถานะทางทะเบียน ณ ที่ว่าการอ�าเภอสวนผึ้ง
            กิจการชั่วคราว ค่าจ้างในวันหยุดพักผ่อนประจ�าปีให้ กลุ่มงานทะเบียนและบัตร ในวันที่ ๗ สิงหาคม ๒๕๖๓
            กับผู้ร้อง แต่นายจ้างได้ยื่นฟ้องเพิกถอนค�าสั่งพนักงาน  และอยู่ระหว่างการพิจารณาขึ้นทะเบียนประวัติบุคคล

            ตรวจแรงงานต่อศาลแรงงานภาค ๒ (สาขาระยอง) เมื่อวันที่   ที่ไม่มีสถานะทางทะเบียน
          รายงานผลการดำาเนินงานของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ชุดที่ ๓
            ๑๖ กันยายน ๒๕๖๓ ศาลแรงงานก�าหนดนัดหมายไกล่เกลี่ย
            อนึ่ง เมื่อวันที่ ๑๘ กันยายน ๒๕๖๓ เจ้าหน้าที่รับเรื่อง  กรณีที่ ๗ ขอความช่วยเหลือให้สิทธิครอบครองบ้านและ
            ร้องเรียนได้สอบถามไปยังผู้เสียหายทราบข้อมูลว่า เมื่อวันที่   ที่ดินตกเป็นของบุตรผู้ร้อง
            ๑๖ กันยายน ๒๕๖๓ ได้ท�าการไกล่เกลี่ยกับนายจ้างแล้ว   ผู้ร้องเป็นผู้พิการทางการเคลื่อนไหว (อัมพาต) ปัจจุบัน
            มีข้อสรุปว่านายจ้างยอมจ่ายเงินร้อยละ ๕๕ ของยอดเงิน อาศัยอยู่กับภรรยาและบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ จ�านวน
            ทั้งหมดตามที่พนักงานตรวจแรงงานมีค�าสั่ง จึงได้ตกลง ๓ คน ในบ้านซึ่งเป็นของบิดาผู้ร้อง ตั้งอยู่บนที่ดิน น.ส. ๓
      สำ�นักง�นคณะกรรมก�รสิทธิมนุษยชนแห่งช�ติ
            ยุติข้อพิพาท นอกจากนี้ ยังมีเจ้าหน้าที่ของกระทรวงการ ที่จังหวัดนครราชสีมา โดยขณะที่บิดาของผู้ร้องยังมี
            พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยม ชีวิตอยู่ได้ท�าพินัยกรรมยกบ้านหลังอื่นให้พี่น้องร่วมบิดา

            ผู้เสียหายรายอื่นอีก อนึ่ง จากการประสานการคุ้มครอง มารดาของผู้ร้อง จ�านวน ๒ คน ปัจจุบันบ้านหลังดังกล่าว
            สิทธิมนุษยชนในประเด็นตามเรื่องร้องเรียนดังกล่าว   ตกเป็นของอา หลังจากบิดาผู้ร้องเสียชีวิต อาของผู้ร้อง
            กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานได้แจ้งผลการตรวจสอบ  ได้น�าป้ายมาติดที่หน้าบ้านเพื่อขับไล่ผู้ร้องและครอบครัว
            และแก้ไขปัญหาตามหน้าที่และอ�านาจแล้ว             ออกจากบ้าน ท�าให้ภรรยาผู้ร้องเกิดความเครียดและ
                                                             มีอาการเส้นเลือดในสมองตีบ ผู้ร้องเกรงว่าหากผู้ร้อง
            กรณีที่ ๖ ขอให้ส�ารวจและจัดท�าทะเบียนประวัติบุคคล  เสียชีวิต บุตรทั้ง ๓ คนจะไม่มีที่อยู่อาศัย จึงร้องเรียนมา

            ที่ไม่มีสถานะทางทะเบียน                          เพื่อขอความช่วยเหลือ ผู้ร้องเห็นว่าผู้ร้องมีสิทธิในบ้าน
                ผู้ร้องทั้งห้าได้จัดท�าโครงการคลินิกกฎหมายชาวบ้าน   หลังดังกล่าว เนื่องจากอาศัยอยู่มาตั้งแต่ก�าเนิด โดยขณะนี้
            โดยมีเป้าหมายส�าคัญในการสร้างพื้นที่เรียนรู้และให้  ภรรยาและบุตรทั้งสามของผู้ร้องได้ย้ายออกจากบ้าน
            ความช่วยเหลือทางกฎหมายเกี่ยวกับปัญหาสิทธิและ หลังดังกล่าวแล้ว ผู้ร้องประสงค์ให้บ้านหลังดังกล่าว
            สถานะบุคคล โดยเมื่อวันที่ ๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๓ ผู้ร้อง ตกเป็นทรัพย์สินของบุตรทั้งสามคน ทั้งนี้ ได้ร้องเรียน
            ทั้งห้าได้ลงพื้นที่ส�ารวจที่อ�าเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี   อัยการสูงสุด ประธานศาลฎีกา ประธานองคมนตรีด้วย
            พบว่า มีเด็กหญิงที่ไม่มีหลักฐานแสดงตน ไม่มีเอกสาร ซึ่งส�านักงานอัยการสูงสุดแจ้งผู้ร้องว่าได้ส่งเรื่องร้องเรียน
            รับรองการเกิดในราชอาณาจักรไทย กล่าวคือ เป็นบุคคล  ไปยังจังหวัดนครราชสีมาแล้ว โดยอยู่ระหว่างการด�าเนินการ
            ไร้รัฐไร้สัญชาติ โดยมีพยานเอกสารและพยานบุคคลว่า

            เด็กหญิงรายดังกล่าวอาศัยอยู่ในราชอาณาจักรไทยมาตั้งแต่   กรณีดังกล่าวเป็นการขอความช่วยเหลือให้ได้สิทธิ
            ปี ๒๕๔๙ (ระยะเวลาประมาณ ๕ ปี) ณ บ้านธารหทัย  ครอบครองบ้านและที่ดิน น.ส. ๓ ที่ผู้ร้องอาศัยอยู่ให้
            ต�าบลป่าหวาย อ�าเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี จึงขอให้ ตกเป็นของบุตรผู้ร้อง เป็นข้อพิพาทเรื่องมรดกซึ่งต้องใช้
            ส�ารวจและจัดท�าทะเบียนประวัติบุคคลที่ไม่มีสถานะ   กระบวนการพิจารณาคดีของศาลยุติธรรม จึงเป็นเรื่องที่
            ทางทะเบียนเพื่อออกบัตรประจ�าตัวบุคคลที่ไม่มีสถานะ ไม่อยู่ในหน้าที่และอ�านาจของ กสม. ประกอบกับจังหวัด
            ทางทะเบียน อนึ่ง ผู้ร้องทั้งห้าได้ร้องเรียนไปยังอธิบดี  นครราชสีมาได้รับเรื่องไว้ด�าเนินการตรวจสอบแล้ว แต่เพื่อ
            กรมการปกครอง รองอธิบดีกรมการปกครองฝ่ายทะเบียน เป็นการเปิดโอกาสให้ผู้ร้องและผู้ถูกร้องได้เจรจาตกลง
            และสารสนเทศ ผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี และนายอ�าเภอ ท�าความเข้าใจกัน กรณีดังกล่าวสมควรได้รับการไกล่เกลี่ย

            สวนผึ้งด้วยแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาด�าเนินการ   ข้อพิพาทโดยศูนย์ด�ารงธรรมจังหวัดนครราชสีมา จึงได้



       76
   73   74   75   76   77   78   79   80   81   82   83