Page 76 - รายงานผลการดำเนินงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ชุดที่ 3 (วันที่ 26 พฤศจิกายน 2558 ถึง 25 พฤษภาคม 2564)
P. 76
แต่ผู้เสียหายทั้งสองไม่มีเงินจ�านวนดังกล่าว ผู้เสียหายที่ ๑ ตั้งแต่วันที่ ๒๕ ตุลาคม ๒๕๖๒ และได้ติดต่อกลับไปยัง
ได้แสดงข้อมูลในโทรศัพท์มือถือกับพนักงานของผู้ถูกร้อง ผู้เสียหายเพื่อแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและ
ว่าตนไม่จ�าเป็นต้องแสดงจ�านวนเงินดังกล่าว และได้ แสดงความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ดังกล่าว จึงเป็นกรณี
สอบถามสถานเอกอัครราชทูตกัมพูชาประจ�าประเทศไทย ที่ผู้เสียหายได้รับการช่วยเหลือเยียวยาแล้ว
ซึ่งแนะน�าว่าให้ใช้เพียงรายการเดินบัญชี แผนการเดินทาง
และหลักฐานการจองเที่ยวบินกลับเท่านั้นแต่พนักงาน กรณีที่ ๒ ขอให้ตรวจสอบและขอความช่วยเหลือบุคคล
ของผู้ถูกร้องได้ด�าเนินการส่งผู้เสียหายทั้งสองกลับไปยัง ต่างด้าว
สายการบินต่างประเทศแห่งหนึ่งเพื่อส่งผู้เสียหายทั้งสอง มีผู้ร้องเรียนทางจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ กล่าวอ้างว่า
กลับไปยังประเทศของตน โดยแจ้งกับพนักงานของสายการบิน นางสาว ด. เป็นชาวกะเหรี่ยง ถูกจ�าหน่ายชื่อจากทะเบียนบ้าน
รายงานผลการดำาเนินงานของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ชุดที่ ๓
ว่าผู้เสียหายทั้งสองถูกปฏิเสธไม่ให้เข้าเมือง ต่อมา ผู้ถูกร้อง ด้วย ท.ร.๙๗ เมื่อวันที่ ๑๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๒
ยอมรับว่ากรณีดังกล่าวเกิดจากความเข้าใจคลาดเคลื่อน เป็นบุคคลที่อาศัยอยู่ในราชอาณาจักรไทย โดยไม่ชอบด้วย
ของพนักงานของตน จึงขอคืนเงินค่าเที่ยวบิน พร้อมเสนอ กฎหมายหรือในลักษณะชั่วคราว เป็นผู้ต้องกักอยู่ใน
เที่ยวบินให้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย และเสนอค่าสินไหมทดแทน สถานกักตัวของส�านักงานตรวจคนเข้าเมืองและไม่มีญาติ
ให้กับผู้เสียหายทั้งสอง แต่ผู้เสียหายทั้งสองเห็นว่า จึงขอความช่วยเหลือ
สำ�นักง�นคณะกรรมก�รสิทธิมนุษยชนแห่งช�ติ
ตนถูกละเมิดสิทธิมนุษยชนเนื่องจากความแตกต่าง
ในเรื่องเชื้อชาติ และส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงในทางธุรกิจ กสม. พิจารณาแล้วเห็นว่า การส่งตัวบุคคลต่างด้าว
เกี่ยวกับการจัดการการท่องเที่ยวของผู้เสียหาย นอกจากนั้น กลับภูมิล�าเนา มีระเบียบและหลักเกณฑ์ก�าหนดไว้แล้ว
ผู้ร้องกล่าวอ้างว่าได้ส่งจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ไปยัง และเป็นเรื่องที่ไม่อยู่ในหน้าที่และอ�านาจของ กสม.
กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา แต่ได้รับเรื่องไว้ประสานการคุ้มครองสิทธิมนุษยชน
ส�านักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เพื่อสอบถาม โดยได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ส�านักงาน กสม. เข้าพบและ
ความคิดเห็นแต่ยังไม่ได้รับการตอบกลับ หารือ พ.ต.อ. หฤษฎ์ เอกอุรุ ผู้ก�ากับการ ๓ กองบังคับการ
สืบสวนสอบสวน ส�านักงานตรวจคนเข้าเมือง เมื่อวันที่
กสม. ได้ประสานการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนไปยัง ๒๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๓ เพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อน
ผู้ถูกร้อง ซึ่งชี้แจงว่า ผู้ถูกร้องมีคู่มือปฏิบัติงานเกี่ยวกับ โดยแจ้งนางสาว ด. และญาติทราบข้อมูลการส่งตัว
การตรวจสอบเอกสารการเดินทางและปัจจัยในการด�ารงชีพ จนนางสาว ด. ได้เดินทางกลับภูมิล�าเนาที่อ�าเภอสวนผึ้ง
ของผู้โดยสารที่จะเดินทางไปยังประเทศกัมพูชา เพื่อป้องกัน จังหวัดราชบุรีเรียบร้อยแล้ว
ไม่ให้เกิดกรณีปฏิเสธการรับเข้าเมืองจากเจ้าหน้าที่
ตรวจคนเข้าเมืองของประเทศปลายทาง ส�าหรับผู้โดยสาร กรณีที่ ๓ กรณีการหายตัวของนายวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์
ที่มีสัญชาติและถือหนังสือเดินทางประเทศต่าง ๆ แต่ส�าหรับ เมื่อวันที่ ๔ มิถุนายน ๒๕๖๓ ได้มีสื่อมวลชนเสนอข่าว
ผู้โดยสารที่มีสัญชาติและถือหนังสือเดินทางที่ออกโดย ว่านายวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ อดีตนักเคลื่อนไหวและ
ประเทศเคนยานั้น คู่มือมิได้ระบุว่าต้องตรวจสอบเอกสาร ผู้ลี้ภัยทางการเมืองชาวไทยได้ถูกอุ้มตัวจากหน้าที่พัก
การเดินทางและปัจจัยในการด�ารงชีพ แต่ด้วยความเข้าใจ ประเภทคอนโดมิเนียมในกรุงพนมเปญ โดยถูกบังคับขึ้นรถ
คลาดเคลื่อนของพนักงานสายการบินเกี่ยวกับสัญชาติ แล้วขับหายไป เหตุเกิดในตอนเย็นขณะที่วันเฉลิม
ของผู้โดยสารโดยเข้าใจว่าผู้โดยสารที่มีสัญชาติและ เดินอยู่หน้าที่พัก ซึ่งขณะเกิดเหตุก�าลังคุยโทรศัพท์
ถือหนังสือเดินทางที่ออกโดยประเทศเคนยาอยู่ในกลุ่ม กับพี่สาว เสียงสุดท้ายของนายวันเฉลิมที่พี่สาวได้ยิน
ผู้โดยสารที่ต้องผ่านการตรวจสอบเอกสารการเดินทาง ผ่านโทรศัพท์ คือ “โอ๊ย หายใจไม่ออก” ก่อนสายโทรศัพท์
และปัจจัยในการด�ารงชีพ จึงท�าให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าว จะถูกตัดไป แต่ในขณะนั้นเข้าใจว่าเกิดอุบัติเหตุและ
อย่างไรก็ตาม ผู้ถูกร้องได้ทบทวนรายละเอียดในคู่มือ นายวันเฉลิมบาดเจ็บ พี่สาวจึงพยายามโทรศัพท์กลับไป
การปฏิบัติงานโดยยกเลิกการตรวจสอบปัจจัยในการด�ารงชีพ อีกประมาณครึ่งชั่วโมง รวมถึงติดต่อเพื่อนของนายวันเฉลิม
ส�าหรับผู้โดยสารที่เดินทางไปยังประเทศกัมพูชาทุกกรณี ให้ช่วยตรวจสอบสถานที่พัก จึงทราบว่านายวันเฉลิมหายไป
74