Page 56 - รายงานผลการศึกษาข้อมูลนักโทษประหารชีวิต
P. 56
๑.๓) ระบบยุติธรรมทางอาญามีความเสี่ยงที่จะเกิดข้อผิดพลาด คุ้มครองสิทธิมนุษยชน มีการศึกษาผลดีผลเสียในการยกเลิกโทษประหารชีวิต รวมทั้ง
ในการตัดสินคดีให้เป็นธรรม โดยอาจมีการจับผิดคน หรือตัดสินผิดพลาด หากมี การศึกษาแนวทางในการปรับปรุงแก้ไขกฎหมายโทษประหารชีวิต ซึ่งพบรายละเอียด
การประหารชีวิตไปแล้วก็จะไม่มีโอกาสได้ใช้ชีวิตต่อไป ในการขับเคลื่อนของภาครัฐที่เกี่ยวข้องในระยะที่ผ่านมา ดังนี้
๑.๔) การใช้โทษประหารชีวิตไม่มีผลต่อการป้องกัน ยับยั้งอาชญากรรม ๑) แผนการดำาเนินงานของกระทรวงยุติธรรมเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลง
๑
ซึ่งจากการศึกษาวิจัยขององค์การสหประชาชาติ พบว่า “งานวิจัยไม่สามารถค้นพบ โทษประหารชีวิต
ข้อยืนยันว่า การประหารชีวิตส่งผลในเชิงป้องปรามได้ดียิ่งกว่าการลงโทษจำาคุกตลอด สืบเนื่องจากสำานักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ได้มี
ชีวิต และไม่น่าเชื่อว่าจะมีข้อยืนยันเหล่านั้นอยู่จริง” อีกทั้งสถิติจากประเทศที่ยกเลิก ข้อเสนอแนะนโยบายการปรับปรุงกฎหมายเกี่ยวกับโทษประหารชีวิตและหลัก
โทษประหารชีวิตไปแล้ว พบว่า การไม่ใช้โทษประหารชีวิตไม่ได้ส่งผลให้อาชญากรรม สิทธิมนุษยชนเสนอต่อนายกรัฐมนตรี (กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ, ๒๕๖๐)
เพิ่มมากขึ้น ซึ่งกระทรวงยุติธรรมได้รับมอบหมายให้ดำาเนินการจัดประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
อนึ่ง งานวิจัยของสำานักงานว่าด้วยยาเสพติดและอาชญากรรมแห่ง เพื่อจัดทำารายงานในประเด็นเรื่องการเปลี่ยนแปลงโทษประหารชีวิต ซึ่งได้มีมติจาก
สหประชาชาติ (UNODC) ระบุว่า ปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับอัตราการเกิดอาชญากรรม คือ การประชุมคณะอนุกรรมการพัฒนาและบังคับใช้กฎหมายอย่างเสมอภาคและเป็นธรรม
ความยากจน ความไม่เท่าเทียมทางเศรษฐกิจและสังคม ตลอดจนความสามารถของรัฐ ครั้งที่ ๒/๒๕๕๙ เมื่อวันที่ ๑ มีนาคม ๒๕๕๙ และคณะกรรมการพัฒนาการบริหาร
ในการบังคับใช้กฎหมาย การรักษาหลักนิติธรรม งานยุติธรรมแห่งชาติ (กพยช.) ครั้งที่ ๒/๒๕๕๙ เมื่อวันที่ ๗ เมษายน ๒๕๕๙ เห็นชอบ
๒) คัดค้านการยกเลิกโทษประหารชีวิต ด้วยเหตุผลสนับสนุน ดังนี้ กับแนวทางการเปลี่ยนแปลงโทษประหารชีวิต ดังนี้
๒.๑) การประหารชีวิตเป็นการลงโทษที่ตอบแทนผู้กระทำาผิดได้ ระยะที่ ๑ ปรับอัตราโทษความผิดบางประเภทจากที่มีโทษ
สาสมกับความผิดที่กระทำาไว้ และสามารถชดเชยความรู้สึกทรมานให้แก่ผู้เสียหายได้ ประหารชีวิตสถานเดียวเป็นโทษอัตราขั้นสูงสุดประหารชีวิต เพื่อให้ผู้พิพากษาสามารถใช้
๒.๒) การประหารชีวิตสามารถเป็นเครื่องมือในการยับยั้งการกระ ดุลพินิจที่จะลงโทษประหารชีวิตได้โดยไม่จำาเป็นต้องวางโทษประหารชีวิตสถานเดียว
ทำาผิด และสร้างความสงบเรียบร้อยในสังคมได้ เท่านั้น ซึ่งการจะพิจารณาว่าฐานความผิดใดควรปรับอัตราการลงโทษไม่ให้เป็นโทษ
๑.๓.๓ แนวทางการปรับปรุงแก้ไขกฎหมายโทษประหารชีวิต ประหารชีวิตเพียงอย่างเดียว ควรพิจารณาหลักเกณฑ์ในเรื่องการลงโทษประหารชีวิต
ประเด็นการเรียกร้องให้มีการยกเลิกโทษประหารชีวิตได้มีการดำาเนิน ในการกระทำาความผิดที่ร้ายแรงที่สุด อาทิ ความผิดเกี่ยวกับชีวิต ความผิดที่ส่งผลถึง
การกันมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งการรณรงค์โดยองค์กรภาครัฐ และเอกสารที่มุ่งเน้นการ ความตายของผู้อื่น
ระยะที่ ๒ ยกเลิกโทษประหารชีวิตในบางฐานความผิด โดยเฉพาะ
ในความผิดที่ไม่เกี่ยวกับชีวิต หรือเป็นความผิดที่ไม่ส่งผลถึงความตายของผู้อื่น เช่น
๑ งานวิจัย เรื่อง “คำาถามเกี่ยวกับโทษประหารและคุณูปการใหม่ของอาชญาวิทยาที่มีต่อประเด็นนี้:
รายงานต่อคณะกรรมาธิการว่าด้วยการป้องกันอาชญากรรมและความยุติธรรมทางอาญา ศึกษา โดย การลักพาตัวผู้อื่นเพื่อให้ได้มาซึ่งค่าไถ่ เจ้าพนักงานใช้อำานาจในตำาแหน่งหน้าที่
Roger Hood ซึ่งภายหลังได้รับการปรับปรุงและตีพิมพ์ ภายใต้ชื่อ “โทษประหาร: ทัศนะในระดับโลก” โดยมิชอบ เป็นต้น
(“The Death Penalty: A World-wide Perspective”), Oxford: Clarendon Press.
ระยะที่ ๓ ยกเลิกโทษประหารชีวิตในฐานความผิดที่เหลือทั้งหมด
54 รายงานผลการศึกษาข้อมูลนักโทษประหารชีวิต รายงานผลการศึกษาข้อมูลนักโทษประหารชีวิต 55