Page 165 - รายงานผลการปฏิบัติงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563
P. 165
164
5.3 ข้อจ�ากัดด้านการปฏิบัติงานในสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019
(COVID-19) และผลกระทบจากมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing)
ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 ทั่วโลกต่างประสบปัญหาและได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อ
ไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ และส�านักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติได้รับ
ผลกระทบโดยตรงเกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่เพื่อส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชน อาทิ การสร้างความร่วมมือกับพันธมิตรในเวที
ระหว่างประเทศ และการขับเคลื่อนผลจากการเข้าร่วมประชุมตามกรอบความร่วมมือด้านสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศอย่าง
เป็นรูปธรรม เนื่องจากการประชุมได้ถูกเลื่อนออกไป การลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการละเมิดสิทธิมนุษยชน และ
การจัดกิจกรรมที่ต้องมีการรวมกลุ่มกันเพื่อสร้างเสริมทุกภาคส่วนของสังคมให้ตระหนักถึงความส�าคัญของสิทธิมนุษยชน ซึ่งหาก
วิธีการด�าเนินโครงการ/กิจกรรมดังกล่าวข้างต้นใช้รูปแบบการประชุมสัมมนา การฝึกอบรมแบบห้องเรียน การลงพื้นที่ตรวจสอบ
ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการละเมิดสิทธิมนุษยชนนั้นไม่สามารถด�าเนินการได้ เพราะรัฐบาลจ�ากัดการรวมกันของคนจ�านวนมาก จึงมี
มาตรการในการเว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) นอกจากนี้ ภารกิจส�าคัญในการเฝ้าระวังและจัดท�ารายงานประเมิน
สถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนของประเทศไทยก็ได้รับผลกระทบด้วย เพราะการได้รับรายงานข้อมูลหรือการชี้แจงการด�าเนินงาน
จากส่วนราชการ หน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง รวมถึงองค์กรเอกชนด้านสิทธิมนุษยชนก็ล่าช้า เนื่องจากผลกระทบจากสถานการณ์
ดังกล่าวเช่นกัน
คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติได้ให้ความส�าคัญกับการปฏิบัติหน้าที่ที่ค�านึงถึงประโยชน์ของประชาชน ควบคู่กับ
การค�านึงถึงความรับผิดชอบต่อส่วนรวม จึงได้มอบให้ส�านักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติทบทวนและปรับแผนการ
ปฏิบัติงาน และน�าเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้เป็นเครื่องมือสนับสนุนการด�าเนินงานตามหน้าที่และอ�านาจตามกฎหมายให้บรรลุ
ผลส�าเร็จตามแผนปฏิบัติการประจ�าปี อาทิ โครงการเยาวชนคนรุ่นใหม่ใส่ใจและยืนเคียงข้างสิทธิมนุษยชน (Youth Standing
Up for Human Rights) ซึ่งมีการก�าหนดกิจกรรมการส่งเสริมการเคารพสิทธิมนุษยชนกับกลุ่มเยาวชนจากสถานศึกษาระดับ
มัธยมศึกษาและอุดมศึกษาทุกภูมิภาคทั่วประเทศ ให้สอดคล้องกับมาตรการในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส
โคโรนา 2019 (COVID-19) เช่น การอบรมให้ความรู้หลักสูตรสิทธิมนุษยชนพื้นฐาน และการประกวดนวัตกรรมเพื่อส่งเสริมการเคารพ
สิทธิมนุษยชนผ่านสื่อออนไลน์ในรูปแบบต่าง ๆ
ทั้งนี้ ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติงานของบุคลากรภายในองค์กร ส�านักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติได้
ก�าหนดแนวทางการปฏิบัติในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) และมีประกาศส�านักงาน
คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เรื่อง มาตรการรองรับการบริการประชาชนในการเฝ้าระวังและป้องกันการแพร่ระบาดของ
โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) และมาตรการในการปฏิบัติงานที่บ้านพัก การปรับวิธีการประชุมสัมมนา การฝึกอบรม
ในสถานที่แบบปิด เปลี่ยนเป็นรูปแบบออนไลน์ เพื่อเป็นการป้องกันและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนและบุคลากรของ
ส�านักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ
คณะรัฐมนตรี ควรพิจารณาสนับสนุนทรัพยากรที่จ�าเป็น ได้แก่ งบประมาณ เทคโนโลยีดิจิทัลที่เหมาะสมและ
จ�าเป็น เพื่อให้คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติและหน่วยงานดังกล่าว สามารถด�าเนินการพัฒนาระบบ
การจัดเก็บข้อมูล และฐานข้อมูลด้านการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชนให้ครบถ้วน รอบด้าน ทันต่อ
สถานการณ์ และสามารถเชื่อมโยงข้อมูลการด�าเนินการดังกล่าวในเชิงโครงสร้างกระบวนการบริหารจัดการ
ข้อเสนอแนะ และผลการด�าเนินการทั้งในระดับผลผลิต (output) ผลลัพธ์ (outcome) รวมถึงผลกระทบ (impact)
อันจะเป็นประโยชน์ต่อการยกระดับงานด้านสิทธิมนุษยชนของประเทศ ทั้งยังเป็นการพัฒนาคุณภาพและ
ความน่าเชื่อถือของรายงานผลการประเมินสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนของประเทศไทยด้วย