Page 148 - รายงานผลการปฏิบัติงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563
P. 148
รายงานผลการปฎิบัติงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ 147
ประจ�าปีงบประมาณ พ.ศ. 2563
และการถูกบังคับให้สูญหาย รวมถึงผลจากการตรวจเยี่ยมเรือนจ�า เพื่อรองรับการให้บริการประชาชน รวมถึงการปฏิบัติงานของ
และสถานที่คุมขังบุคคลของ คณะกรรมการสิทธิมนุษยชน เจ้าหน้าที่ โดยมีผลการด�าเนินงานที่ส�าคัญ ดังนี้
แห่งชาติ ตลอดจนพัฒนาการและปัญหาของการเยียวยา
ผู้เสียหายจากการทรมานโดยเฉพาะการเยียวยาผู้ได้รับความ 3.8.1 การจัดตั้งส�านักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน
เสียหายด้านจิตใจและการเยียวยาที่มิใช่ตัวเงิน และเมื่อวันที่ แห่งชาติพื้นที่ภาคใต้
30 กันยายน 2563 ได้มีหนังสือกราบเรียนนายกรัฐมนตรี คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติมีมติให้จัดตั้ง
เพื่อทราบและด�าเนินการตามความเห็นและข้อเสนอแนะ “ส�านักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติพื้นที่ภาคใต้”
ตามรายงานคู่ขนานตามอนุสัญญาต่อต้านการทรมานและ ณ จังหวัดสงขลา เป็นส่วนราชการในภูมิภาคพื้นที่น�าร่อง เนื่องจาก
การประติบัติหรือการลงโทษที่โหดร้าย ไร้มนุษยธรรม พื้นที่ภาคใต้เป็นพื้นที่ที่มีกรณีเรื่องร้องเรียนในอัตราสูง
หรือที่ย�่ายีศักดิ์ศรีฉบับที่ 2 ต่อมาได้รับหนังสือลงวันที่ 16 มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม ภาษา ศาสนา เชื้อชาติและ
ตุลาคม 2563 แจ้งว่าคณะรัฐมนตรีได้มอบหมายให้กระทรวง สถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชน ทั้งนี้ เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่
ยุติธรรมเป็นหน่วยงานหลักรับเรื่องนี้ไปพิจารณาร่วมกับ สามารถเข้าถึงกลไกการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชน
หน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงกลาโหม กระทรวง ได้โดยง่าย ซึ่งสอดคล้องตามหน้าที่และอ�านาจของคณะกรรมการ บทที่
การต่างประเทศ และกระทรวงมหาดไทย สิทธิมนุษยชนแห่งชาติที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญแห่ง 3
ราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 พระราชบัญญัติ
3.8 การบริหารจัดการและการพัฒนาองค์กร ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน
คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ได้ก�าหนด แห่งชาติ พ.ศ. 2560 ซึ่งสอดคล้องกับกติการะหว่างประเทศ
ยุทธศาสตร์การพัฒนากระบวนการท�างานและการบริหาร 2 ฉบับและอนุสัญญาระหว่างประเทศด้านสิทธิมนุษยชน
จัดการองค์กรให้เกิดผลสัมฤทธิ์ โดยยึดมั่นคุณธรรมและ 7 ฉบับ ที่ประเทศไทยเป็นภาคีและมีพันธกรณีที่จะต้อง
ความโปร่งใส และน�ามาใช้เป็นแนวทางด�าเนินงานอย่างต่อเนื่อง ปฏิบัติตาม รวมทั้งหลักการปารีสเกี่ยวกับสถานะของ
แม้ว่าในปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 จะเผชิญกับปัญหาและ สถาบันสิทธิมนุษยชนแห่งชาติที่รับรองโดยที่ประชุม
ข้อท้าทายส�าคัญที่เกิดจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของ สมัชชาสหประชาชาติ ตามข้อมติที่ 48/134 เมื่อวันที่
โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) คณะกรรมการ 20 ธันวาคม 2536 ที่องค์การสหประชาชาติก�าหนดไว้ใน
สิทธิมนุษยชนแห่งชาติ และส�านักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน ส่วนที่เกี่ยวกับการมีส�านักงานที่ตั้งในภูมิภาค อันจะช่วย
แห่งชาติยังคงมุ่งมั่นท�างานตามบทบาทและหน้าที่ของสถาบัน สนับสนุนการท�างานของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ
สิทธิมนุษยชนแห่งชาติ โดยมอบหมายให้คณะท�างานเฉพาะกิจ ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ซึ่งส�านักงานคณะกรรมการ
พิจารณาแนวทางด�าเนินการและมาตรการป้องกันการแพร่ สิทธิมนุษยชนแห่งชาติพื้นที่ภาคใต้ มีพื้นที่รับผิดชอบในเขต
ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) โดยมี 14 จังหวัดภาคใต้ ประกอบด้วย จังหวัดกระบี่ ชุมพร ตรัง
การประกาศมาตรการรองรับการบริการประชาชน และมาตรการ นครศรีธรรมราช นราธิวาส ปัตตานี พังงา พัทลุง ภูเก็ต ยะลา
ด้านการบริหารงานบุคคลระหว่างการเฝ้าระวังและป้องกัน ระนอง สงขลา สตูล และจังหวัดสุราษฎร์ธานี มีหน้าที่รับผิดชอบ
การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) 3 ภารกิจหลัก ได้แก่ (1) ภารกิจด้านการส่งเสริมสิทธิมนุษยชน
จ�านวน 12 ฉบับ ตลอดจนให้การสนับสนุนและช่วยเหลือ (2) ภารกิจด้านการคุ้มครองสิทธิมนุษยชน และ (3) ภารกิจด้าน
แก่บุคลากรที่ได้รับผลกระทบตามความเหมาะสมได้อย่างทัน การเฝ้าระวังสถานการณ์สิทธิมนุษยชน ซึ่งจะส่งผลให้ประชาชน
ท่วงที คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติให้ความส�าคัญกับ ในภูมิภาคมีหลักประกันด้านสิทธิมนุษยชนที่สอดคล้องกับหลัก
การทบทวนและปรับปรุงโครงสร้างให้สอดคล้องกับบทบาท สิทธิมนุษยชนสากล โดยมีเป้าหมายในการปฏิบัติงาน ดังต่อไปนี้
และภารกิจขององค์กร การพัฒนาบุคลากรเพื่อให้เป็นองค์กร 1) เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่สามารถเข้าถึงและได้รับ
แห่งการเรียนรู้ การปรับปรุงวิธีการท�างานให้เกิดความคล่องตัว การส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชนอย่างทั่วถึง สะดวก
เน้นการน�าเทคโนโลยีสารสนเทศมาสนับสนุนการปฏิบัติงาน รวดเร็วและทันต่อสถานการณ์ในพื้นที่