Page 34 - คู่มือสิทธิมนุษยชนศึกษาสำหรับประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
P. 34
กรณีบุคคลที่ต้องสงสัยเป็นสตรี ต้องแยกกำรควบคุม
ออกจำกบุคคลที่ต้องสงสัยที่เป็นชำย ต้องจัดส่งสิ่งจ�ำเป็นส�ำหรับสตรีและจัดเจ้ำหน้ำที่
ซักถำมและเจ้ำหน้ำที่รักษำควำมปลอดภัยที่เป็นสตรีด้วย
๓.๒ พระราชก�าหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. ๒๕๔๘
พระรำชก�ำหนดกำรบริหำรรำชกำรในสถำนกำรณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. ๒๕๔๘
เป็นกฎหมำยที่ประกำศใช้เมื่อปรำกฏว่ำมีสถำนกำรณ์ฉุกเฉิน มีกำรก่อกำรร้ำย
กำรใช้ก�ำลังประทุษร้ำยต่อชีวิต ร่ำงกำย หรือทรัพย์สิน หรือมีเหตุอันควรเชื่อได้ว่ำ
มีกำรกระท�ำควำมรุนแรงกระทบต่อควำมมั่นคงของรัฐ ควำมปลอดภัยในชีวิตหรือ
ทรัพย์สินของรัฐหรือบุคคล และมีควำมจ�ำเป็นต้องเร่งแก้ไขปัญหำให้ยุติอย่ำงมี
ประสิทธิภำพและทันท่วงที นำยกรัฐมนตรีจะประกำศให้อ�ำนำจเจ้ำหน้ำที่ฝ่ำยปกครอง
หรือต�ำรวจหรือทหำรร่วมกันด�ำเนินกำรเพื่อป้องกัน แก้ไข ปรำบปรำม ระงับ ยับยั้ง
ฟื้นฟู และช่วยเหลือประชำชน
ในพื้นที่จังหวัดชำยแดนภำคใต้ ได้มีกำรประกำศใช้พระรำชก�ำหนด
กำรบริหำรรำชกำรในสถำนกำรณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. ๒๕๔๘ โดยให้อ�ำนำจแก่เจ้ำหน้ำที่
ของรัฐในกำรจับกุมและควบคุมตัวบุคคลที่สงสัยว่ำจะเป็นผู้ร่วมกระท�ำให้เกิด
สถำนกำรณ์ฉุกเฉิน หรือเป็นผู้ใช้ ผู้โฆษณำ ผู้สนับสนุนหรือปกปิดข้อมูลเกี่ยวกับ
กำรกระท�ำให้เกิดสถำนกำรณ์ฉุกเฉิน เท่ำที่มีเหตุจ�ำเป็น เพื่อป้องกันมิให้บุคคลนั้น
กระท�ำหรือร่วมมือกระท�ำกำรใดๆ อันจะท�ำให้เกิดเหตุกำรณ์ร้ำยแรง หรือเพื่อให้เกิด
ควำมร่วมมือในกำรระงับเหตุกำรณ์ (มำตรำ ๑๑ (๑))
คู่มือสิทธิมนุษยชนศึกษาส�าหรับเจ้าหน้าที่ของรัฐในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ๓๓
18-9-62.indd 33 18/9/2562 21:58:35