Page 51 - คู่มือประเมินความเสี่ยงด้านสิทธิมนุษยชนอย่างรอบด้าน และรายการตรวจสอบของภาคธุรกิจ
P. 51

กรอบการท�า HRDD      7






                                               อาศัยผู้เชี่ยวชาญภายนอก
 •  กฎหมายคุ้มครองแรงงานต่างด้าวและลูกจ้างที่ได้งานผ่านบริษัทจัดหางานน้อยกว่าพนักงาน
 หรือลูกจ้างประจำา     บริษัทของคุณอาจพึ่งพาแหล่งความเชี่ยวชาญภายนอกในการประเมินแนวโน้มผลกระทบด้านสิทธิมนุษยชน
 •  แรงงานไม่ตระหนักในสิทธิของตนเอง  แหล่งที่เป็นไปได้มีอาทิ

 •  แรงงานไม่สามารถเข้าเป็นสมาชิกสหภาพแรงงานของบริษัทได้ และไม่มีองค์กรใดๆ ที่จะสามารถเป็น
 ตัวแทนของพวกเขา และไม่มีศักยภาพที่จะรวมกลุ่มกันต่อรองกับบริษัทจัดหางานหรือนายหน้า
 นอกจากนี้ ถ้าหากค่าแรงถูกตกลงกันล่วงหน้ากับบริษัทในฐานะผู้ว่าจ้าง การเจรจาต่อรอง   •  คำาแนะนำาจากรัฐบาล คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) องค์กรพัฒนาเอกชน (NGO)
 ผ่านสหภาพที่เชื่อมโยงกับบริษัทจัดหางานหรือนายหน้าก็อาจมีขีดจำากัดหลายประการ  สถาบันการศึกษา เจ้าหน้าที่สาธารณสุข เจ้าหน้าที่ตำารวจ
 •  แรงงานโดยเฉพาะแรงงานข้ามชาติอาจเผชิญกับความเสี่ยงที่จะถูกบังคับให้ทำางาน (เช่น เพื่อใช้หนี้)    •  เอกสารหรือข้อเขียนที่เขียนโดยผู้เชี่ยวชาญ รวมทั้งรายงานจาก NGO รัฐบาล สมาคมธุรกิจ

 ถูกทำาร้าย หรือผลกระทบขั้นรุนแรงอื่นๆ เมื่อใดที่พวกเขาต้องจ่ายค่าธรรมเนียมแลกกับการหางาน    หรือ แนวร่วมของผู้มีส่วนได้เสีย เอกสารเหล่านี้อาจทำาให้คุณเข้าใจประเด็นสิทธิมนุษยชนร่วมสมัย
 หรือเมื่อเอกสารยืนยันตัวตนถูกริบเอาไป ความเสี่ยงเหล่านี้แหลมคมเป็นพิเศษในพื้นที่ซึ่งกฎหมาย   หรือประเด็นที่กำาลังอุบัติขึ้นในบริบทของการประกอบธุรกิจ และทำาให้ได้เห็นตัวอย่างผลกระทบ
 ระดับชาติอ่อนแอ ไม่ถูกบังคับใช้ หรือขัดแย้งกับสิทธิมนุษยชนที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล   •  ภาคประชาสังคมในท้องถิ่น เช่น นักสิทธิมนุษยชน สหภาพแรงงาน องค์กรพัฒนาเอกชน (NGO)

                       และคนอื่นๆ ที่สามารถช่วยให้มองเห็นผลกระทบได้ นอกจากนี้ การขอความช่วยเหลือจากบุคคล
                       หรือองค์กรเหล่านี้ยังเป็น การเพิ่มความโปร่งใสของบริษัทของคุณ และอาจช่วยปัดเป่าความกังวล
    บริษัทควรพิจารณาว่าธรรมเนียมปฏิบัติในการจัดซื้อจัดจ้างของคุณอาจมีส่วนสร้างผลกระทบอย่างไร ทบทวนว่า  ที่พวกเขามีต่อบริษัท
 ข้อกำาหนดสำาหรับคู่ค้าและผู้รับเหมาที่บริษัทออกเองนั้นมีส่วนสร้างหรือซ้ำาเติมผลกระทบด้านสิทธิมนุษยชนหรือไม่  •  รายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม รายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ หรือรายงานผลกระทบ
 อย่างไร ยกตัวอย่างเช่น ถ้าหากฝ่ายจัดซื้อกำาหนดว่าคู่ค้าต้องส่งของตรงเวลา โดยไม่คำานึงถึงเกณฑ์อื่นๆ คู่ค้าก็อาจรู้สึก  ทางสังคม (EIA / EHIA / SIA) ที่เปิดเผยต่อสาธารณะอาจบ่งชี้ความเสี่ยงด้านสิทธิมนุษยชนได้
 ว่าไม่สามารถจ่ายค่าจ้างแรงงานอย่างเพียงพอ อาจว่าจ้างบริษัทจัดหางานภายใต้เงื่อนไขที่ส่งผลกระทบต่อสิทธิมนุษยชน

 ของแรงงาน หรือไม่ก็อาจลดมาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อม ส่งผลต่อสิทธิในการมีสุขภาพที่ดีได้



                5          ปรึกษาผู้มีส่วนได้เสียที่ได้รับผลกระทบ
 4  อาศัยความเชี่ยวชาญ


                  “ผู้มีส่วนได้เสียที่ได้รับผลกระทบ” (Affected Stakeholders) ในหลักการชี้แนะ UNGP หมายถึง บุคคลใดก็ตามที่
    บริษัทจะต้องอาศัยความเชี่ยวชาญที่เกี่ยวข้อง เพื่อช่วยให้บริษัทมั่นใจว่ากระบวนการประเมินนั้นจะได้ข้อมูล   สิทธิมนุษยชนอาจได้รับผลกระทบจากการประกอบธุรกิจ สินค้า หรือบริการของบริษัท เขาหรือเธอถือเป็น “ผู้ทรงสิทธิ”
 ที่ครบถ้วนสมบูรณ์ที่สุดเท่าที่จะทำาได้ แหล่งความเชี่ยวชาญอาจมีทั้งภายในและภายนอกบริษัท และอาจรวมถึงเอกสาร  (Rights Holder) ซึ่งรวมถึงมนุษย์ทุกคน และแตกต่างจากผู้มีส่วนได้เสียในภาคประชาสังคม ธุรกิจ หรือภาครัฐ ซึ่งอาจ
 หรือแนวทาง หรือปัจเจกบุคคลที่มีความรู้และประสบการณ์ที่เกี่ยวข้อง
            มีผลประโยชน์เกี่ยวพันหรือส่งผลกระทบต่อกิจการได้ แต่ไม่ใช่ว่าได้รับผลกระทบโดยตรงจากบริษัท การปรึกษาหารือ
            ผู้มีส่วนได้เสียที่ได้รับผลกระทบจะช่วยให้บริษัทเข้าใจมุมมองของพวกเขาว่า ผลกระทบต่างๆ นั้นส่งผลกระทบต่อชีวิต
 อาศัยความเชี่ยวชาญจากภายในบริษัท   ความเป็นอยู่ของพวกเขาอย่างไรจริงๆ การสาธิตให้เห็นว่าบริษัทเอาจริงกับการนำาข้อกังวลของผู้มีส่วนได้เสียที่ได้รับ

            ผลกระทบมาปรับปรุงกิจการ จะช่วยให้ให้บริษัทสร้างความเข้าใจร่วมกันได้ ทำาให้เป็นไปได้ที่บริษัทจะทำางานร่วมกับ
    กระบวนการประเมินผลกระทบ คือ โอกาสที่จะได้พูดคุยกับบุคลากรจากหลากหลายภาคส่วนและหลายฝ่าย
 ในบริษัทมาสนทนากันเรื่องผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นได้ ฉะนั้นจึงช่วยสร้างความเข้าใจที่ตรงกันว่า การกระทำาและการ  ผู้มีส่วนได้เสียในการระบุผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น และหาทางรับมือกับมันอย่างยั่งยืน
 ตัดสินใจบางอย่างอาจนำาไปสู่ผลกระทบเชิงลบได้อย่างไร การสนทนาที่ว่านี้จะช่วยทำาให้คนยอมรับและสนับสนุน

 มาตรการป้องกันผลกระทบ นอกจากนี้ ยังช่วยสนับสนุนความร่วมมือกันซึ่งจำาเป็นจะต้องเกิดเมื่อใดที่เกิดผลกระทบขึ้น   ท�าแผนที่ผู้มีส่วนได้เสีย (Stakeholder Map)
 มีหลายวิธีที่คุณจะสร้างกระบวนการปรึกษาหารือภายในนี้ได้
                  การปรึกษาหารือกับผู้มีส่วนได้เสียนั้นก่อนอื่นจะต้องอาศัยการระบุว่า ผู้มีส่วนได้เสียของแต่ละโครงการมีใครบ้าง
    สหภาพแรงงานหรือตัวแทนแรงงานที่ถูกต้องตามกฎหมาย อาจเป็นแหล่งความรู้ความเชี่ยวชาญภายในบริษัท   รวมถึงกลุ่มย่อยภายในแต่ละกลุ่ม เช่น สตรี เยาวชน แรงงานผู้พิการ ลูกจ้างรับเหมาค่าแรง ฯลฯ คู่มือ Good Practice

 เกี่ยวกับแนวโน้มผลกระทบด้านสิทธิมนุษยชนได้ พวกเขาไม่เพียงแต่อาจมีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งในผลกระทบต่อพนักงาน   Handbook on Stakeholder Engagement ของ International Finance Corporation (IFC) องค์กรลูกของธนาคารโลก
 (รวมถึงแรงงานที่ถูกจ้างโดยผู้รับเหมาและคู่ค้าท้องถิ่น) เท่านั้น แต่อาจยังเข้าใจเรื่องผลกระทบต่อชุมชนท้องถิ่น เนื่องจาก  หยิบยกข้อพิจารณาบางประเด็นที่อาจสำาคัญต่อการทำาแผนที่ผู้มีส่วนได้เสีย เช่น
 พวกเขาเองหลายคนอาจเป็นสมาชิกในชุมชนนั้นๆ ด้วย


 50                                                                                                       51
   46   47   48   49   50   51   52   53   54   55   56