Page 49 - คู่มือประเมินความเสี่ยงด้านสิทธิมนุษยชนอย่างรอบด้าน และรายการตรวจสอบของภาคธุรกิจ
P. 49
กรอบการท�า HRDD 7
บริษัทจำานวนมาก โดยเฉพาะบริษัทค้าปลีกขนาดใหญ่มีบทเรียนแล้วว่า ถ้าหากวิธีประเมินและตรวจสอบคู่ค้า
เน้นแต่การเรียกร้องให้องค์กรเหล่านั้นทำาตามจรรยาบรรณหรือแนวทางอะไรสักอย่าง คู่ค้าก็อาจทำาทีว่าทำาตามแล้ว
• ความทุ่มเทของพันธมิตรในแง่สิทธิมนุษยชน ทั้งความทุ่มเทภายในองค์กรและโครงการภายนอก แต่ไม่ได้ใส่ใจอย่างจริงจัง อาจไม่เข้าใจความสำาคัญของประเด็นนี้หรือไม่สามารถลงมือปฏิบัติตามได้อย่างเหมาะสม
ที่เข้าร่วม และระดับที่ความทุ่มเทเหล่านั้นสอดคล้องกับสิทธิมนุษยชนสากล ด้วยเหตุนี้ วิธีที่ประสบความสำาเร็จจึงควรจะรวมถึงการทบทวนความสามารถของคู่ค้าในการปฏิบัติตามข้อกำาหนดด้าน
• ระดับความรับผิดของพันธมิตรต่อผลประกอบการด้านสิทธิมนุษยชน ยกตัวอย่างเช่น รับผิดชอบต่อ สิทธิมนุษยชน และประเมินว่าบริษัทของคุณจะช่วยยกระดับศักยภาพของพวกเขาได้หรือไม่ และอย่างไร
ผู้ถือหุ้น หรือผ่านการเปิดเผยข้อมูลสาธารณะ
• ความพร้อมของพันธมิตรที่จะใส่เงื่อนไขว่าด้วยการประกอบการด้านสิทธิมนุษยชนเข้าไปในสัญญา
ร่วมทุน เช่น การอ้างอิงมาตรฐาน และ/หรือ การกำาหนดกลไกติดตามตรวจสอบร่วมกัน จัดล�าดับความส�าคัญส�าหรับการประเมิน
• สถาบันทางการเงินที่ออกทุนให้กับพันธมิตร รวมถึงมาตรฐานและความรับผิดที่สถาบันนั้นๆ
กำาหนดเกี่ยวกับผลประกอบการด้านสิทธิมนุษยชน ยกตัวอย่างเช่น IFC Performance Standards, ยิ่งบริษัทมีขนาดใหญ่ ยิ่งมักมีเครือข่ายความสัมพันธ์ทางธุรกิจที่สลับซับซ้อน ห่วงโซ่อุปทานมีหลายขั้น ด้วยเหตุนี้
Equator Principles หรือข้อกำาหนดที่คล้ายกันจากธนาคารเพื่อการพัฒนา บริษัทจึงอาจไม่สามารถประเมินผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นในระดับของคู่ค้า / ผู้รับเหมาขั้นแรก (First Tier หมายถึง
องค์กรที่มีความสัมพันธ์โดยตรงกับบริษัท) ได้ครบทุกองค์กร ยังไม่ต้องพูดถึงองค์กรในทุกขั้นของห่วงโซ่อุปทาน ในกรณี
เช่นนี้ คุณจะต้องจัดลำาดับความสำาคัญก่อนว่าจะประเมินองค์กรใดบ้าง ซึ่งโดยปกติแล้วบริษัทมักจะมองว่าผู้รับเหมา
หรือคู่ค้าที่ตนทำาธุรกรรมด้วยมากที่สุด (เช่น คู่ค้าที่ส่งวัตถุดิบให้กับบริษัทคิดเป็นสัดส่วนมากที่สุดในบรรดาคู่ค้าทั้งหมด)
ผู้รับเหมา ที่ปรึกษา และคู่ค้า คือองค์กรที่ควรประเมิน เพราะสำาคัญกับธุรกิจที่สุด อย่างไรก็ดี หลักการชี้แนะ UNGP ระบุว่า บริษัทควรจัดลำาดับความ
สำาคัญ ตามจุดที่ผลกระทบด้านสิทธิมนุษยชนมีแนวโน้มและมีความรุนแรงสูงสุด ฉะนั้น การจัดลำาดับดังกล่าวอาจดูจาก
ผู้เล่นเหล่านี้มีบทบาทที่หลากหลายในธุรกิจของคุณ ตั้งแต่การศึกษาวิจัยข้อมูลฐาน (Baseline Research) ปัจจัยต่อไปนี้
การประเมินผลกระทบ การสำารวจ การก่อสร้าง ขายเชื้อเพลิง ส่งวัตถุดิบ รักษาความปลอดภัย ส่งอาหารให้กับพนักงาน
ฯลฯ บริษัทของคุณจะต้องถามตัวเองว่า
• คู่ค้า / ผู้รับเหมาในพื้นที่ซึ่งมีความเสี่ยงด้านสิทธิมนุษยชนเป็นที่ประจักษ์แล้ว เช่น มีอุปสรรคขัดขวาง
• บริษัทพึ่งพาสินค้าหรือบริการใดบ้างจากผู้รับเหมา คู่ค้า และผู้ที่มีความสัมพันธ์อื่นๆ ทางธุรกิจ การรวมกลุ่มกันเจรจาต่อรอง หรือกฎหมายแรงงานถูกบังคับใช้อย่างย่อหย่อน
• สินค้าหรือบริการชนิดใดมีความเสี่ยงด้านสิทธิมนุษยชนซึ่งเป็นที่รู้จักดีอยู่แล้ว ยกตัวอย่างเช่น • คู่ค้า / ผู้รับเหมาที่มีประวัติละเมิดสิทธิมนุษยชน
ความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการใช้แรงงานข้ามชาติหรือลูกจ้างชั่วคราว (ดูรายละเอียดในส่วนถัดไป) หรือ • คู่ค้า / ผู้รับเหมาที่มอบสินค้าหรือบริการซึ่งเป็นความเสี่ยงต่อสิทธิมนุษยชนในตัวเอง (เช่น เป็นอันตราย
ความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการที่ผู้รับเหมาก่อสร้างตัดเส้นทางเข้าถึงแหล่งน้ำาของชุมชนท้องถิ่น ต่อสุขภาพหรือความปลอดภัย)
• มีความเสี่ยงด้านสิทธิมนุษยชนอื่นๆ อีกหรือไม่ในการดำาเนินกิจการของคู่ค้า ผู้รับเหมา ฯลฯ • คู่ค้า / ผู้รับเหมาท้องถิ่นที่มีขนาดเล็กหรือเป็นรายใหม่ อาจยังไม่ตระหนักในประเด็นสิทธิมนุษยชน
และความเสี่ยงเหล่านั้นรุนแรงเพียงใด หรือไร้ซึ่งศักยภาพที่จะรับมือกับประเด็นดังกล่าว
มีวิธีมากมายที่บริษัทของคุณสามารถใช้ในการประเมินความเสี่ยงด้านสิทธิมนุษยชนที่เกิดจากความสัมพันธ์กับ
คู่ค้าหรือผู้รับเหมา รวมถึงวิธีต่อไปนี้
บริษัทจัดหางาน นายหน้าแรงงานข้ามชาติ
• การคัดกรองคุณสมบัติก่อนตกลงทำาธุรกรรม (Pre-qualification Screening) ปกติองค์กรเหล่านี้ มีหน้าที่จัดหาแรงงานภายใต้โจทย์ของบริษัท โดยที่บริษัทจ่ายค่าตอบแทนให้กับแรงงาน
• การประเมินตนเองของคู่ค้า / ผู้รับเหมา แบบนี้ โดยเฉพาะแรงงานข้ามชาติ อาจมีความสำาคัญอย่างยิ่งในการช่วยให้บริษัทสามารถรับมือกับความผันผวนของ
• การช่วยเหลือคู่ค้า/ผู้รับเหมารายใหญ่ในการประเมินความเสี่ยงด้านสิทธิมนุษยชนของพวกเขา อุปสงค์สินค้าหรือบริการของตน และหลายประเทศก็มีระบบกฎหมายที่มุ่งคุ้มครองแรงงานประเภทนี้ อย่างไรก็ตาม
• การประเมิน ณ พื้นที่โครงการ และการตรวจสอบภายนอก (Audits) ในบางกรณีแรงงานอาจมีความเปราะบางต่อผลกระทบเชิงลบด้านสิทธิมนุษยชน ความเปราะบางดังกล่าวอาจเกิดขึ้นได้
ในกรณีต่อไปนี้
48 49