Page 32 - การสัมมนาทางวิชาการ หัวข้อ การลงโทษทางอาญากับหลักสิทธิมนุษยชน
P. 32

เกิดปร�กฏก�รณ์กฎหม�ยอ�ญ�เฟ้อ รัฐธรรมนูญเขียนไว้ชัดแจ้ง                               ก�รที่จะถูกลงโทษ แม้ว่�โทษจะไม่รุนแรง จะมีผลโดยตรงต่อ
              กฎหม�ยอ�ญ�ใช้กับสิ่งที่เป็นคว�มผิดร้�ยแรงเท่�นั้น เพร�ะเรื่องนี้                     ผลคว�มยับยั้ง (deterrent) ที่จะเกิดขึ้น อันนี้เป็นง�นวิจัยตั้งแต่

              เป็นเรื่องใหญ่ม�ก ถ้�เร�ใช้กฎหม�ยอ�ญ�ม�กเกินไป มันจะนำ�ม�                            หล�ยสิบปีก่อนที่ผมเป็นนักศึกษ�
              ซึ่งคว�มเสื่อมของกฎหม�ย เพร�ะกระบวนก�รของสิ่งที่เร�ได้รับ                                   ในประเด็นที่ ๒ นี้ นอกจ�กเร�ใช้กฎหม�ยอ�ญ�กันม�กแล้ว
              อ�จจะไม่ได้คุ้มค่�กับสิ่งที่เร�เสียไป                                                เร�ยังใช้โทษที่รุนแรงเกินสมควรอีกด้วย ยกตัวอย่�งเช่น ก�รประก�ศ

                     ประก�รแรก ก่อนที่เร�จะพูดถึงก�รลงโทษท�งอ�ญ�                                   สงคร�มกับย�เสพติด หลังจ�กนั้น ๒-๓ ปี ได้มีก�รประก�ศชัยชนะ
              กับม�ตรฐ�นสิทธิมนุษยชน เร�จะต้องเข้�ใจตรงนี้ร่วมกันก่อน                              ผลของมัน คือ ทำ�ให้แนวคิดที่มองว่�ใครก็ต�มที่เข้�ไปเกี่ยวข้องกับ
              และก็มีอีกหล�ยๆ เรื่องที่ไม่ต้องใช้โทษท�งอ�ญ�ก็ได้ ให้ใช้ม�ตรก�ร                     ย�เสพติดเป็นผู้ร้�ยของมนุษยช�ติที่สำ�คัญที่สุด  ทำ�ให้ปัจจุบัน

              ท�งปกครองแทนก็ได้เช่นกัน                                                             ในเรือนจำ�มีนักโทษคดีที่เกี่ยวข้องกับย�เสพติดประม�ณ
                     ประเด็นที่สอง นอกจ�กที่เร�จะชอบใช้กฎหม�ยอ�ญ�และ                               ๓๑๘,๐๐๐ คน (ร้อยละ ๗๕ จ�กนักโทษทั้งหมด)  สรุปก็คือ

              ก�รลงโทษท�งอ�ญ�กันม�กแล้ว  เร�ชอบใช้โทษที่รุนแรงด้วย                                 ก�รประก�ศสงคร�มกับย�เสพติด  มันอ�จจะไม่เป็นคำ�ตอบที่
              ก�รใช้โทษที่รุนแรง ตั้งแต่ผมรับร�ชก�รม�จนพ้นจ�กร�ชก�รม�แล้ว                          ถูกต้องที่สุด เพร�ะปัญห�นี้ก็ยังมีอยู่ในปัจจุบัน
              ก็ยังเห็นว่� รัฐบ�ลทุกยุคทุกสมัยนิยมที่จะแก้ปัญห�สังคมที่หว�ดกลัว                           ประเด็นที่ ๓ หัวใจสำ�คัญในก�รที่จะนำ�กฎหม�ยอ�ญ�ม�ใช้

              ต่ออ�ชญ�กรรมโดยก�รใช้โทษที่รุนแรงทั้งนั้น เพร�ะบ�งครั้งอ�จจะ                         ได้อย่�งถูกต้องเหม�ะสมต�มหลักของสิทธิมนุษยชน มี ๒ ส่วน คือ
              ง่�ยในก�รที่จะแก้กฎหม�ยว่� เร�มีโทษที่รุนแรงแล้วไม่ต้องห่วง                                 ๑.  หลักสัดส่วนในก�รลงโทษ

              ประช�ชนต้องก�รรัฐบ�ลที่คุ้มครองประช�ชนได้ รัฐบ�ลก็คุ้มครอง                                  ๒.  หลักคว�มจำ�เป็น
              ประช�ชนโดยก�รบอกว่�เร�มีกฎหม�ยที่รุนแรงแล้ว เพร�ะฉะนั้น                                     เพร�ะฉะนั้นเมื่อเร�จะลงโทษใครด้วยกฎหม�ยอ�ญ� เร�ต้อง
              มีแนวโน้มของรัฐบ�ลจะเลือกใช้โทษที่รุนแรงเพื่อคว�มอบอุ่นใจให้                         คำ�นึงถึงจิตใจว่�โทษนั้นสมควรม�กน้อยเพียงใด เพื่อถ้�เข�ได้โอก�ส

              กับประช�ชนที่ไม่รู้ ที่อ่�นแต่สื่อสังคมออนไลน์ทุกวัน ว่�ต้องลงโทษ                    ออกม�เจอกับสังคม เข�จะกลับตัวกลับใจได้
              ให้หนัก ให้ส�สม รัฐบ�ลก็สนองตอบ เร�จัดก�รเต็มที่ ได้ผลทั้งสองท�ง                            จริงๆ แล้ว พอพูดถึงเรื่องโทษท�งอ�ญ� มันไม่ได้มีโทษแค่
              ประช�ชนก็อุ่นใจ รัฐบ�ลก็ดูดี                                                         ประห�รชีวิตหรือจำ�คุก ยังมีโทษอีกม�กม�ย เช่น โทษปรับ โทษกักขัง

                     แต่ว่� ถ้�เร�ศึกษ�หรือเข้�ใจข้อมูลของนักวิช�ก�ร จะพบว่�                       เป็นต้น  แต่สิ่งที่สำ�คัญม�กกว่�นั้นในระดับของสหประช�ช�ติ คือ
              คว�มรุนแรงของก�รลงโทษไม่ได้มีคว�มหม�ยกับพฤติกรรมของคน                                คว�มจำ�เป็นที่ในหล�ยๆ ประเทศต้องปฏิรูปก�รลงโทษท�งอ�ญ�
              ในสังคมเท่�กับคว�มแน่นอนของก�รถูกลงโทษ คว�มแน่นอนของ




              30                                                                                                                                      31
              การลงโทษทางอาญากับหลักสิทธิมนุษยชน                                                                                    การลงโทษทางอาญากับหลักสิทธิมนุษยชน
   27   28   29   30   31   32   33   34   35   36   37