Page 35 - การสัมมนาทางวิชาการ หัวข้อ การลงโทษทางอาญากับหลักสิทธิมนุษยชน
P. 35

เพร�ะฉะนั้น ก�รปฏิบัติต่อผู้ต้องขังที่เข้�ใจถึงสิทธิมนุษยชน

              ของผู้ต้องขังมีคว�มสำ�คัญม�ก  และคนที่สำ�คัญที่สุดที่ต้องได้รับ                             กล่�วโดยสรุปได้ ๕ ข้อ ดังนี้
              ก�รยกย่องคือ คนของกรมร�ชทัณฑ์ เพร�ะว่�ถ้�สภ�พเรือนจำ�                                ข้อที่หนึ่ง  กฎหม�ยอ�ญ�ไม่ใช่ม�ตรก�รเดียวที่เร�มีท�งกฎหม�ย
              มันแย่ขน�ดนั้นมันก็มีปัญห� แต่คนที่จะอยู่ในนั้นตลอดทั้งช่วงร�ชก�ร                            มีกฎหม�ยอื่นอีกม�กม�ย ใช้กฎหม�ยอ�ญ�เท่�ที่จำ�เป็น
              คือ คนของกรมร�ชทัณฑ์

                     ประเด็นสุดท้�ย สิ่งที่พูดม�ทั้งหมดเป็นโจทย์ที่สำ�คัญในเรื่อง                          อย่�ทำ�ให้กฎหม�ยอ�ญ�เฟ้อ ถ้�มันเฟ้อแล้วมันจะส่งผล
              ของก�รกำ�หนดนโยบ�ยท�งอ�ญ� ต้องยอมรับว่� ก�รจะทำ�สังคม                                        ม�กม�ยทั้งผลกระทบต่อกระบวนก�รท�งยุติธรรม ก�รเสีย

              ให้พัฒน�ก้�วหน้� นโยบ�ยอ�ญ�กับกฎหม�ยท�งอ�ญ�เป็นเรื่อง                                        โอก�สและต�มม�ด้วยคว�มเสื่อมของกฎหม�ย
              ที่สำ�คัญ  จริงๆ แล้ว ถ้�จะลงลึกไปกว่�นี้ ก�รลดคดีท�งอ�ชญ�กรรม                       ข้อที่สอง  ถ้�เร�จะต้องใช้โทษท�งอ�ญ� ต้องใช้โดยคำ�นึงถึงหลักสัดส่วน
              คือ ก�รสร้�งสังคมที่เข้มแข็ง ยกตัวอย่�งเช่น เมื่อ ๕๐-๖๐ ปี ก่อน                              ที่เหม�ะสมและหลักคว�มจำ�เป็น
              มีก�รปลูกฝิ่นในช�ยแดนภ�คเหนือกันม�ก  คนที่ปลูกฝิ่น คือ                               ข้อที่ส�ม  ก�รใช้โทษจำ�คุกม�กเกินไป เพิ่มก�รสนับสนุนจ�กรัฐบ�ล

              พวกช�วเข�มีร�ยได้เล็กๆ น้อยๆ ในขณะนั้นมีก�รตัดสินใจด้�น                                      ให้มีระบบที่ดีม�รองรับ เช่น ง�นของกรมร�ชทัณฑ์
              คว�มมั่นคงด้วยว่� เพื่อไม่ให้มีก�รแพร่กระจ�ยของย�เสพติดควร                                   กรมคุมประพฤติ ง�นที่ต้องม�ดูคนอยู่นอกเรือนจำ� ต้องมี
              จะทำ�อย่�งไร  แต่ด้วยวิสัยทัศน์ของพระบ�ทสมเด็จพระปรมินทร                                     ก�รส่งเสริม เป็นต้น

              มห�ภูมิพลอดุลยเดช รัชก�ลที่ ๙  ท่�นทรงมองเห็นว่� ก�รไป                               ข้อที่สี่  คว�มเชื่อในศักยภ�พชุมชน ต้องมีก�รส่งเสริมให้ชุมชน
              ปร�บปร�มโดยไม่ได้ให้โอก�สในก�รพัฒน�  คงไม่ยั่งยืน และ                                        เข้�ม�มีบทบ�ทอย่�งเต็มที่ในทุกเรื่องในกิจกรรมฟื้นฟู
              ไม่เป็นธรรมด้วย ท่�นจึงริเริ่มในก�รพัฒน�ให้โอก�สในก�รที่ให้                                  ก�รบำ�เพ็ญประโยชน์ของผู้กระทำ�คว�มผิดในก�รรองรับ

              ช�วเข�รู้จักที่จะปลูกพืชเชิงพ�ณิชย์ม�แทนฝิ่น เปิดโอก�สในก�ร                                  กลับเข้�สู่สังคม เพร�ะว่�อ�ชญ�กรรมมันเกิดในชุมชน
              ให้คว�มรู้ท�งก�รเกษตร ท�งก�รตล�ด สร้�งโครงสร้�งพื้นฐ�น                                       แล้วก็ย้อนกลับไปสู่ชุมชน
              ผลที่ได้ต�มม� โครงก�รหลวงประสบคว�มสำ�เร็จม�ก เป็นต้น                                 ข้อที่ห้�  ถ้�เร�กำ�หนดนโยบ�ยท�งอ�ญ�โดยมีหลักสิทธิขั้นพื้นฐ�น

                     เพร�ะฉะนั้น ตรงนี้จะเห็นได้ชัดเจนเลยว่� ก�รพัฒน�กับ                                   ของมนุษย์ และแนวคิดก�รพัฒน�อย่�งยั่งยืน เชื่อได้ว่�ก�รใช้
              เรื่องก�รก่ออ�ชญ�กรรมมีคว�มเชื่อมโยงกัน  ก�รพัฒน�ที่ทำ�ให้                                   นโยบ�ยไม่ใช่แค่เป็นก�รจัดก�รกับปัญห�เฉพ�ะหน้�เท่�นั้น
                                                                  ้
              ทุกคนอยู่ร่วมกันได้อย่�งพอเพียง  ไม่เกิดคว�มคว�มเหลื่อมลำ�                                   แต่มันจะนำ�ไปสู่ก�รพัฒน�คว�มมั่นคงของมนุษย์ที่แท้จริง
              ท�งสังคม เกิดคว�มรักในถิ่นฐ�นที่ตนเองอยู่ ก็ส�ม�รถทำ�ให้

              ก�รก่ออ�ชญ�กรรมหมดไปได้



              34                                                                                                                                      35
              การลงโทษทางอาญากับหลักสิทธิมนุษยชน                                                                                    การลงโทษทางอาญากับหลักสิทธิมนุษยชน
   30   31   32   33   34   35   36   37   38   39   40