Page 637 - รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์ เรื่อง กฎหมายว่าด้วยความเสมอภาคและการไม่เลือกปฏิบัติ
P. 637
613
ภาคผนวก
จากบทที่ 3 หัวข้อ 3.4 กฎหมายไทยที่เกี่ยวกับหลักความเท่าเทียมกันและการห้ามเลือกปฏิบัติ
ปัจจุบันรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยมีหลักการดังนี้
รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยพุทธศักราช 2560
มาตรา 27 บุคคลย่อมเสมอกันในกฎหมาย มีสิทธิและเสรีภาพและได้รับความคุ้มครองตามกฎหมาย
เท่าเทียมกัน
ชายและหญิงมีสิทธิเท่าเทียมกัน
การเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมต่อบุคคล ไม่ว่าด้วยเหตุความแตกต่างในเรื่องถิ่นก าเนิด เชื้อ
ชาติ ภาษา เพศ อายุ ความพิการ สภาพทางกายหรือสุขภาพ สถานะของบุคคล ฐานะทางเศรษฐกิจหรือสังคม
ความเชื่อทางศาสนา การศึกษาอบรม หรือความคิดเห็นทางการเมืองอันไม่ขัดต่อบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ
หรือเหตุอื่นใด จะกระท ามิได้
มาตรการที่รัฐก าหนดขึ้นเพื่อขจัดอุปสรรคหรือส่งเสริมให้บุคคลสามารถใช้สิทธิหรือเสรีภาพ
ได้เช่นเดียวกับบุคคลอื่น หรือเพื่อคุ้มครองหรืออ านวยความสะดวกให้แก่เด็ก สตรี ผู้สูงอายุ คนพิการ หรือ
ผู้ด้อยโอกาส ย่อมไม่ถือว่าเป็นการเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมตามวรรคสาม
บุคคลผู้เป็นทหาร ต ารวจ ข้าราชการ เจ้าหน้าที่อื่นของรัฐ และพนักงานหรือลูกจ้างของ
องค์กรของรัฐย่อมมีสิทธิและเสรีภาพเช่นเดียวกับบุคคลทั่วไป เว้นแต่ที่จ ากัดไว้ในกฎหมายเฉพาะในส่วนที่
เกี่ยวกับการเมือง สมรรถภาพ วินัย หรือจริยธรรม
ข้อสังเกต จากรัฐธรรมนูญฉบับนี้จะเห็นได้ว่า เหตุแห่งการเลือกปฎิบัติคล้ายคลึงกับรัฐธรรมนูญฉบับปี
2550 อย่างไรก็ตาม มีการก าหนดเหตุใหม่เพิ่มขึ้นคือ “เหตุอื่นใด” ซึ่งไม่ชัดเจนว่าจะครอบคลุมเหตุใดบ้าง
โดยอาจมีความเป็นไปได้สองกรณีคือ (1) ตีความสอดล้องกับเหตุแห่งการเลือกปฎิบัติตามกฎหมายสิทธิ
มนุยชนระหว่างประเทศ กล่าวคือ เป็นเหตุที่นอกเหนือจากเหตุซึ่งมาตรา 27 วรรคสามระบุไว้ แต่เป็นเหตุที่มี
การเกาะเกี่ยวหรืออ้างอิงกับเหตุแห่งการเลือกปฎิบัติตามกฎหมายสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ หรือ (2)
เป็นเหตุอื่นที่กว้างกว่าเหตุแห่งการเลือกปฎิบัติตามกฎหมายสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ

