Page 14 - สรุปผลการสัมมนา เรื่อง ธุรกิจท่องเที่ยวและการโรงแรมกับการเคารพสิทธิมนุษยชน ตามหลักการชี้แนะของสหประชาชาติ ตามกรอบงานขององค์การสหประชาชาติ ในการคุ้มครอง เคารพ และเยียวยา : วันที่ 17 มิถุนายน 2559 ณ โรงแรมกะตะบีช รีสอร์ทแอนด์ สปา จังหวัดภูเก็ต
P. 14

13



                           จำกสภำวกำรณ์เช่นนี้ ท ำให้ในปัจจุบันโลกก ำลังให้ควำมส ำคัญกับบทบำทของภำคธุรกิจในกำร
               เคำรพสิทธิมนุษยชนมำกยิ่งขึ้น โดยเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๕๔ (ค.ศ. ๒๐๑๑) ประเทศสมำชิกสหประชำชำติ ได้ให้กำร

               รับรองเอกสำรหลักกำรแห่งสหประชำชำติด้ำนธุรกิจและสิทธิมนุษยชน : กำรปฏิบัติตำมกรอบกำรคุ้มครอง

               เคำรพ เยียวยำ (United Nations Guiding Principles on Business and Human Rights : Implementing
               the Protect, Respect, Remedy Framework (UNGPs) ซึ่งมีเสำหลัก ๓ ประกำรเป็นพื้นฐำนส ำคัญ ได้แก่

                              (๑) ให้รัฐมีหน้าที่ในการ “คุ้มครอง” ประชาชน (State Duty to Protect) จำกกำรถูก

                                 ละเมิดสิทธิมนุษยชนที่กระท ำโดยบุคคลรวมทั้งองค์กรภำคธุรกิจจำกกำรมีนโยบำย
                                 ควบคุมที่เหมำะสม

                              (๒) ให้ภาคธุรกิจ “เคารพ” ในหลักสิทธิมนุษยชน (Corporate Responsibility to

                                 Respect) ไม่ว่ำจะเป็นธุรกิจระดับใดก็ตำม ต้องค ำนึงถึงผลกระทบในทำงลบที่จะ
                                 ตำมมำในกำรด ำเนินกิจกำร และควรที่จะใช้ควำมระมัดระวังเพื่อหลีกเลี่ยงกำรละเมิด

                                 สิทธิของผู้อื่น

                              (๓) การเข้าถึง “การเยียวยา” (Access to Effective Remedy) ผู้ที่ถูกละเมิดสิทธิ
                                 มนุษยชนต้องเข้ำถึงกำรเยียวยำที่มีประสิทธิผลมำกยิ่งขึ้น ไม่ว่ำเป็นกำรเยียวยำในทำง

                                 ศำลหรือไม่ใช่ในทำงศำลก็ตำม

                            เป็นที่น่ำยินดีว่ำ ในช่วงที่ผ่ำนมำไม่นำนนี้ ภำครัฐได้ปรับตัวในประเด็นธุรกิจกับสิทธิมนุษยชน
               อย่ำงส ำคัญ โดยจะเห็นได้จำกกำรที่ปลัดกระทรวงยุติธรรม ในฐำนะหัวหน้ำคณะผู้แทนรัฐบำลไทย ได้มีค ำ

               กล่ำวในโอกำสน ำเสนอรำยงำนกำรทบทวนสถำนกำรณ์สิทธิมนุษยชนในประเทศไทยภำยใต้กระบวนกำร

               Universal Periodic Review (UPR) รอบที่ ๒ ต่อที่ประชุมคณะท ำงำน UPR สมัยที่ ๒๕ ซึ่งเป็นกลไกภำยใต้
               คณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชำชำติ (Human Rights Council) ณ นครเจนีวำ ประเทศ

               สวิตเซอร์แลนด์ เมื่อวันที่ ๑๓ พฤษภำคม ๒๕๕๙ ว่ำประเทศไทยก ำลังจะจัดท ำแผนปฏิบัติกำรแห่งชำติว่ำด้วย

               ธุรกิจกับสิทธิมนุษยชน (National Action Plan: NAP) ซึ่งเป็นสิ่งที่หลำยฝ่ำยเห็นพ้องว่ำจะเป็นกลไกส ำคัญใน
               กำรขับเคลื่อนกำรน ำหลักกำร UNGPs มำใช้ในประเทศ  นอกจำกนี้ เมื่อวันที่ ๑๖ พฤษภำคม ๒๕๕๙

               คณะรัฐมนตรีได้มีมติมอบหมำยให้กระทรวงกำรต่ำงประเทศและกระทรวงพำณิชย์เป็นหน่วยงำนหลักพิจำรณำ
               ตำมที่คณะกรรมกำรสิทธิมนุษยชนแห่งชำติ (กสม.) ได้มีข้อเสนอแนะเชิงนโยบำยไปยังรัฐบำล ให้น ำหลักกำร

               UNGPs มำเป็นกรอบในกำรด ำเนินงำนในกรณีกำรด ำเนินโครงกำรท่ำเรือน้ ำลึกและเขตเศรษฐกิจทวำยใน

               สำธำรณรัฐแห่งสหภำพเมียนมำร์ เพื่อให้มีกลไกและก ำหนดภำรกิจในกำรก ำกับดูแลกำรลงทุนในต่ำงประเทศ
               ของผู้ลงทุนสัญชำติไทย ให้เคำรพต่อหลักกำรพื้นฐำนด้ำนสิทธิมนุษยชน และต่อมำรัฐมนตรีว่ำกำรกระทรวง

               กำรต่ำงประเทศได้เสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรีให้หน่วยรำชกำรต่ำงๆ ด ำเนินกำรในหลำยประกำร อำทิ

               กำรเผยแพร่ควำมรู้และสร้ำงควำมเข้ำใจเกี่ยวกับหลักกำร UNGPs และกำรผลักดันให้ภำคเอกชนมีมำตรกำรที่
               ส่งเสริมสิทธิมนุษยชนในด้ำนต่ำงๆ




               น ำเสนอเพื่อพิจำรณำในกำรประชุมคณะอนุกรรมกำรด้ำนสิทธิทำงเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม
               ครั้งที่ 19/2559 วันจันทร์ที่ 4 กรกฎำคม 2559
   9   10   11   12   13   14   15   16   17   18   19