Page 33 - รวมพระราชบัญญัติ ระเบียบ และแนวปฏิบัติ ของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (ฉบับพกพา)
P. 33

๒๗

                                                           ๑๓

                        ในกรณีที่ปรากฏว่ามีเหตุตามวรรคหนึ่ง ให้อนุกรรมการผู้นั้นแจ้งต่อประธานกรรมการโดยเร็ว

               ระหว่างนั้นห้ามมิให้อนุกรรมการผู้นั้นมีส่วนเกี่ยวข้องกับการด าเนินการของคณะอนุกรรมการในค าร้อง
               นั้น
                        ความในวรรคสองให้ใช้บังคับในกรณีที่คู่กรณีร้องคัดค้านว่าอนุกรรมการผู้ใดมีเหตุตามวรรค

               หนึ่งด้วยโดยอนุโลม
                        การยื่นค าคัดค้านตามวรรคสาม ให้ท าเป็นหนังสือยื่นต่อประธานอนุกรรมการและประธาน

               กรรมการก่อนคณะอนุกรรมการจะได้พิจารณาส านวนในเรื่องนั้นเสร็จสิ้น โดยจะต้องแสดงข้อเท็จจริงที่
               เป็นเหตุแห่งการคัดค้านไว้ให้ปรากฏในค าคัดค้านด้วย ในการพิจารณาค าคัดค้าน ให้คณะกรรมการเป็น
               ผู้วินิจฉัยชี้ขาด


                        ข้อ ๔๕  คณะอนุกรรมการมีวาระการท าหน้าที่ตามที่คณะกรรมการก าหนด

                        กรณีที่คณะอนุกรรมการครบวาระแล้วและยังไม่มีการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นใหม่
               ให้ส านักงานมอบหมายเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบส านวนด าเนินการเกี่ยวกับค าร้องที่อยู่ในความรับผิดชอบของ
               คณะอนุกรรมการนั้น แล้วเสนอคณะกรรมการพิจารณาต่อไป


                        ข้อ ๔๖  อนุกรรมการต้องมีคุณสมบัติทั่วไปและไม่มีลักษณะต้องห้าม ดังต่อไปนี้

                        (๑) มีสัญชาติไทย
                        (๒) มีอายุไม่ต่ ากว่าสามสิบปี
                        (๓) ไม่เป็นบุคคลล้มละลาย
                           ๙
                        (๔)  ไม่เป็นบุคคลที่เคยต้องค าพิพากษาให้จ าคุกตั้งแต่สองปีขึ้นไป โดยได้พ้นโทษมายังไม่ถึง
               ห้าปีในวันได้รับการเสนอชื่อ เว้นแต่ในความผิดอันได้กระท าโดยประมาท

                        (๕) ไม่เคยถูกไล่ออก ปลดออก หรือให้ออกจากหน่วยราชการ หน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ
               หรือราชการส่วนท้องถิ่น เพราะการกระท าผิดวินัยอย่างร้ายแรง
                        (๖) ไม่เคยถูกวุฒิสภามีมติถอดถอนออกจากต าแหน่ง

                        (๗) ไม่เคยถูกคณะกรรมการวินิจฉัยว่าเป็นผู้ละเมิดสิทธิมนุษยชน หรือเป็นผู้มีพฤติการณ์
               ปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรม

                        (๘) ไม่เคยต้องค าพิพากษาหรือค าสั่งของศาลให้ทรัพย์ตกเป็นของแผ่นดิน เพราะมีทรัพย์สิน
               เพิ่มขึ้นผิดปกติ หรือร่ ารวยผิดปกติ
                        (๙) ไม่เคยมีประวัติการถูกคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติชี้มูลว่าเป็น

               ผู้กระท าผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่ กระท าความผิดต่อต าแหน่งหน้าที่ราชการหรือกระท าความผิด
               ต่อต าแหน่งหน้าที่ในการยุติธรรม เว้นแต่ต่อมาภายหลังศาลวินิจฉัยว่าผู้นั้นมิได้กระท าความผิดตามที่

               ถูกชี้มูล
                        (๑๐) ไม่เป็นบุคคลติดยาเสพติดให้โทษ




                        ๙
                          ข้อ ๔๖ (๔) แก้ไขเพิ่มเติมโดยระเบียบคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการในการ
               ตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชน (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๙
   28   29   30   31   32   33   34   35   36   37   38