Page 177 - ตราสารระหว่างประเทศด้านสิทธิมนุษยชนที่ไทยเป็นภาคี : จากเว็บไซต์กระทรวงการต่างประเทศ
P. 177
ข้อ 16
ข้อบทของอนุสัญญานี้ซึ่งเกี่ยวข้องกับการยุติข้อพิพาทหรือข้อร้องเรียนจะต้องน าไปบังคับใช้โดยปราศจากอคติใน
ส่วนที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการอื่น ๆ ซึ่งกติกาหรืออนุสัญญาที่ได้รับการรับรองจากสหประชาชาติและทบวงการช านัญ
พิเศษได้ก าหนดไว้ในการยุติข้อพิพาทหรือข้อร้องเรียนในเรื่องการเลือกปฏิบัติ และจะไม่กีดกั้นรัฐภาคีจากการแสวงหา
กระบวนการอื่น ๆ เพื่อยุติข้อพิพาทตามที่ก าหนดไว้ในความตกลงระหว่างประเทศทั่วไปและที่จัดท าขึ้นเป็นพิเศษ ซึ่งมีผล
ใช้บังคับกับรัฐภาคีที่เกี่ยวข้องนั้น
ภาค 3
ข้อ 17
1. อนุสัญญานี้เปิดให้รัฐซึ่งเป็นสมาชิกสหประชาชาติ หรือสมาชิกทบวงการช านัญพิเศษ รัฐภาคีแห่งธรรมนูญศาล
ยุติธรรมระหว่างประเทศ และรัฐอื่นซึ่งสมัชชาสหประชาชาติได้เชิญให้เข้าร่วมเป็นภาคีอนุสัญญาฉบับนี้ ลงนามได้
2. อนุสัญญานี้ต้องมีการให้สัตยาบัน สัตยาบันสารจะต้องเก็บรักษาไว้ที่เลขาธิการสหประชาชาติ
ข้อ 18
1. อนุสัญญานี้จะเปิดให้รัฐซึ่งกล่าวถึงในข้อ 17 วรรค 1 เข้าภาคยานุวัติได้
2. ภาคยานุวัติจะมีผลเมื่อมีการมอบภาคยานุวัติสารไว้ให้เลขาธิการสหประชาชาติเก็บรักษา
ข้อ 19
1. อนุสัญญานี้จะมีผลใช้บังคับเมื่อครบก าหนดสามสิบวัน นับแต่วันที่ได้มีการมอบสัตยาบันสารและภาคยานุวัติ
สาร ฉบับที่ 27 ต่อเลขาธิการสหประชาชาติแล้ว
2. ส าหรับรัฐแต่ละรัฐซึ่งได้ให้สัตยาบันฉบับนี้ หรือได้เข้าภาคยานุวัติ ภายหลังจากที่ได้มีการมอบสัตยาบันสาร
หรือภาคยานุวัติสาร ฉบับที่ 27 อนุสัญญาจะมีผลใช้บังคับกับรัฐนั้น 30 วัน หลังจากวันที่รัฐนั้นได้มอบสัตยาบันสารหรือ
ภาคยานุวัติสารของตนแล้ว
ข้อ 20
1. เลขาธิการสหประชาชาติจะรับข้อสงวนที่รัฐต่าง ๆ จัดท าในขณะให้สัตยาบันหรือภาคยานุวัติ และส่งต่อให้รัฐ
ทุกรัฐที่เป็นภาคีหรือจะเข้าเป็นภาคีอนุสัญญานี้ ทั้งนี้ รัฐภาคีใดที่ต้องการคัดค้านข้อสงวนดังกล่าว จะต้องแจ้งคัดค้านต่อ
เลขาธิการสหประชาชาติภายใน 90 วัน นับจากวันที่ได้รับแจ้งจากเลขาธิการสหประชาชาติ
๑๑
อนุสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วย การขจัดการเลือกปฏิบัติทางเชื้อชาติในทุกรูปแบบ ประเทศไทยก าลังอยู่ในขั้นตอนการภาคยานุวัติต่อสหประชาชาติ (ข้อมูล มกราคม ๒๕๔๖)