Page 14 - สิทธิและเสรีภาพส่วนบุคคล และสิทธิเด็ก กรณีเห็นว่าการกำหนดแบบทรงผมของนักเรียนกระทบต่อสิทธิมนุษยชนและไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550
P. 14
ในการลงโทษนักเรียน กระทรวงศึกษาธิการได้ออกระเบียบกระทรวงศึกษาธิการ ว่าด้วย
การลงโทษนักเรียนและนักศึกษา พ.ศ. ๒๕๔๘ โดยอาศัยอำานาจตามความในมาตรา ๖ และมาตรา ๖๕
แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ. ๒๕๔๖ โดยความมุ่งหมายของระเบียบฉบับดังกล่าวเป็นไป
เพื่ออบรม สั่งสอน และปรับปรุงแก้ไขนิสัยและความประพฤติที่ไม่ดีของนักเรียนหรือนักศึกษาให้รู้สึก
สำานึกในความผิด และกลับประพฤติตนในทางที่ดีต่อไป ซึ่งข้อ ๕ ระบุว่า โทษที่จะลงโทษแก่นักเรียน
หรือนักศึกษาที่กระทำาความผิด มี ๔ สถาน ดังนี้
(๑) ว่ากล่าวตักเตือน
(๒) ทำาทัณฑ์บน
(๓) ตัดคะแนนความประพฤติ
(๔) ทำากิจกรรมเพื่อให้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม
และข้อ ๙ ระบุว่า การตัดคะแนนความประพฤติให้เป็นไปตามระเบียบปฏิบัติว่าด้วยการตัด
คะแนนความประพฤตินักเรียนและนักศึกษาของแต่ละสถานศึกษากำาหนด และให้ทำาบันทึกข้อมูลไว้
เป็นหลักฐาน
ในส่วนของโรงเรียนเอกชนจะต้องปฏิบัติตามพระราชบัญญัติโรงเรียนเอกชน พ.ศ. ๒๕๕๐
โดยกระทรวงศึกษาธิการจะเป็นหน่วยงานที่กำากับดูแล ส่วนการบริหารงานภายในจะเป็นในเรื่องของ
ความเป็นอิสระของโรงเรียนเอกชน
๓.๒ ผู้แทนสำานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต ๑๐ ชี้แจงข้อเท็จจริงและส่งเอกสารที่
เกี่ยวข้อง สรุปได้ ดังนี้
ผู้อำานวย การสำานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต ๑๐ จะมีการประชุมและกำาชับให้
โรงเรียนและสถานศึกษาแต่ละแห่ง ซึ่งมีนโยบายและมีการกำาหนดกฎระเบียบของแต่ละโรงเรียน
โดยกฎระเบียบต่างๆ มีการระบุไว้ในคู่มือนักเรียน พร้อมทั้งมีการแจกคู่มือนักเรียนและชี้แจงให้
ผู้ปกครองและนักเรียนได้รับทราบในวันที่มีการประชุมในครั้งแรกหรือในวันปฐมนิเทศ โดยการอนุญาต
ให้ไว้ผมยาวในกรณีของโรงเรียนในจังหวัดสมุทรสาครบางโรงเรียน เช่น ชมรมกีฬายิมนาสติกศิลป์
และยิมนาสติกลีลาได้ให้ผู้ปกครองนักเรียนทำาหนังสือขอความอนุเคราะห์จากโรงเรียน โดยโรงเรียน
จะพิจารณาอนุญาตเป็นการเฉพาะราย เป็นต้น
ภายใน ๑ ปี สำานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) จะมีการจัดงานศิลป-
หัตถกรรมให้กับนักเรียน โดยจะมีการแข่งขันทักษะทางวิชาการในเรื่องของนาฏศิลป์และดนตรี
ซึ่งหากมีความจำาเป็นที่จะต้องไว้ผมยาวเพื่อการแข่งขัน แต่ละโรงเรียนจะอนุญาตให้นักเรียนที่จะ
ลงแข่งขันไว้ผมยาว โดยพิจารณาเป็นคราวๆ ไป ซึ่งกรณีที่เป็นปัญหาอาจเกิดจากการที่โรงเรียนไม่ได้มี
การประชาสัมพันธ์ให้นักเรียนในโรงเรียนทราบโดยทั่วกัน จึงทำาให้เหมือนเป็นการเลือกปฏิบัติ
ปัจจุบันโรงเรียนมีสภาพเป็นนิติบุคคล โดยอยู่ภายใต้การกำากับดูแลของสำานักงานเขตพื้นที่
การศึกษามัธยมศึกษาแต่ละเขต ซึ่งในส่วนของการควบคุมดูแลสำานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา
จะดำาเนินการเฉพาะในส่วนของการบริหาร ทั้งนี้ การที่โรงเรียนจะออกกฎระเบียบต่างๆ จะต้องอาศัย
13
สิทธิและเสรีภาพส่วนบุคคล และสิทธิเด็ก กรณีเห็นว่าการกำาหนดแบบทรงผมของนักเรียนกระทบต่อสิทธิมนุษยชน
และไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๕๐