Page 10 - สิทธิและเสรีภาพส่วนบุคคล และสิทธิเด็ก กรณีเห็นว่าการกำหนดแบบทรงผมของนักเรียนกระทบต่อสิทธิมนุษยชนและไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550
P. 10

กสม. ๗
                    รายงานผลการพิจารณา
                    คำาร้องที่ขอให้เสนอแนะนโยบาย
                    หรือข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมาย







                                              คณะกรรมก�รสิทธิมนุษยชนแห่งช�ติ






                                                                       วันที่ ๘ สิงหาคม  พ.ศ. ๒๕๕๕


                    รายงานผลการพิจารณา ที่ ๔๑๖/๒๕๕๕


                    เรื่อง    สิทธิและเสรีภาพส่วนบุคคล และสิทธิเด็ก กรณีเห็นว่าการกำาหนดแบบทรงผมของนักเรียน
                              กระทบต่อสิทธิมนุษยชนและไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย

                              พุทธศักราช ๒๕๕๐

                    ผู้ร้อง   ปกปิดชื่อ
                    ผู้ถูกร้อง  โรงเรียนหรือสถานศึกษา




                    ๑.  คว�มเป็นม�

                          ผู้ร้องได้มีหนังสือร้องเรียนต่อคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ลงวันที่ ๑๗ ธันวาคม ๒๕๕๔
                    ตามคำาร้องที่ ๕๙๗/๒๕๕๔ ว่า  ผู้ร้องอายุ ๑๕ ปี  ปัจจุบันศึกษาอยู่ที่โรงเรียนในจังหวัดสมุทรสาคร

                    โดยผู้ร้องเห็นว่า การที่กระทรวงศึกษาธิการกำาหนดแบบทรงผมของนักเรียน คือ นักเรียนชายต้องตัดผม

                    สั้นเกรียน  และนักเรียนหญิงต้องตัดผมสั้นเห็นติ่งหู กระทบต่อสิทธิและเสรีภาพส่วนบุคคล และเป็น
                    การละเมิดสิทธิมนุษยชน และเนื่องจากในบางโรงเรียนได้อนุโลมให้นักเรียนที่เรียนนาฏศิลป์สามารถไว้
                    ผมยาวได้นั้น  ผู้ร้องเห็นว่าการอนุโลมดังกล่าวเป็นการเลือกปฏิบัติ ตามนัยมาตรา ๓๐ ของรัฐธรรมนูญ

                    แห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๕๐  โดยผู้ร้องกล่าวอ้างว่า แบบทรงผมที่กระทรวงศึกษาธิการ

                    กำาหนดไว้นั้น  ทำาให้นักเรียนที่เข้าสู่ช่วงวัยรุ่นขาดความมั่นใจและเสียสมาธิในการเรียน  ทั้งนี้ ผู้ร้องได้
                    อ้างถึงบทความของ ศ.ดร. นิธิ เอียวศรีวงศ์ จากหนังสือพิมพ์มติชน ฉบับวันที่ ๒ พฤศจิกายน ๒๕๕๐ ซึ่ง
                    ได้กล่าวถึงทรงผมนักเรียนไว้  สรุปได้ว่า ประเทศไทยรับเอาแบบทรงผมและเครื่องแบบนักเรียนต่างๆ

                    มาจากประเทศญี่ปุ่นในช่วงสงครามโลก ครั้งที่ ๒  ซึ่งในช่วงนั้น เกิดการระบาดของเหา ประชาชนจึงนิยม

                    ตัดผมสั้นเกรียน และจากงานวิจัยของทีมวิจัยมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒพบว่า จากการสัมภาษณ์
                    เด็กนักเรียน กฎระเบียบเรื่องทรงผมเป็นสิ่งที่นักเรียนมีความกังวลมากที่สุด  เนื่องจากวัยรุ่นอยากมี
                    บุคลิกที่ดี สวยงาม  ดังนั้น เรื่องทรงผมจึงทำาให้เกิดความคับข้องใจมาก และเป็นสาเหตุหนึ่งที่จะนำามา

                    ซึ่งปัญหาอื่นๆ ต่อไป



                                                                                                           9

                                                  สิทธิและเสรีภาพส่วนบุคคล และสิทธิเด็ก กรณีเห็นว่าการกำาหนดแบบทรงผมของนักเรียนกระทบต่อสิทธิมนุษยชน
                                                                         และไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๕๐
   5   6   7   8   9   10   11   12   13   14   15