Page 41 - รายงานการประเมินสถานการณ์สิทธิมนุษยชนในประเทศไทยและรายงานผลการปฏิบัติงานประจำปี 2557
P. 41

40 รายงานการประเมินสถานการณ์สิทธิมนุษยชนในประเทศไทย และรายงานผลการปฏิบัติงานประจำาปี ๒๕๕๗









                             พิเศษใดไม่ว่าจะ   เป็นภาวะสงคราม หรือสภาพคุกคามที่เกิดจากสงคราม หรือสภาวะ
                             ฉุกเฉินสาธารณะอื่นใดมาเป็นข้ออ้างสำาหรับการทรมานได้  โดยรัฐภาคีจะต้องประกัน

                             ว่าการกระทำาทรมานทั้งปวงเป็นความผิดตามกฎหมายอาญาของตน และกำาหนดโทษ

                             ที่เหมาะสมกับความร้ายแรงของการกระทำา โดยรัฐภาคีต้องปฏิบัติตามในข้อบทที่ ๑-๑๗

                                    ๑.๒.๓) อนุสัญญาว่าด้วยการป้องกันบุคคลจากการหายสาบสูญโดยถูกบังคับ  ๘


                                   อนุสัญญามีวัตถุประสงค์เพื่อระงับยับยั้งการบังคับบุคคลให้สูญหาย โดยการ

                             กระทำาของเจ้าหน้าที่รัฐ โดยกำาหนดให้บุคคลจะถูกกระทำาให้หายสาบสูญโดยถูกบังคับ
                             ไม่ได้และไม่มีพฤติการณ์พิเศษใดไม่ว่าจะเป็นสภาวะสงคราม หรือสภาพคุกคามที่จะ
                             เกิดสงคราม หรือเหตุอื่นใดมาเป็นข้ออ้างสำาหรับการกระทำาให้บุคคลหายสาบสูญโดย

                             ถูกบังคับได้ ซึ่งรัฐภาคีต้องดำาเนินมาตรการที่จำาเป็นเพื่อประกันว่า การหายสาบสูญโดย

                             ถูกบังคับเป็นฐานความผิดภายใต้กฎหมายอาญาของตน  ต้องมีการดำาเนินมาตรการ
                             ที่เหมาะสมเพื่อสอบสวนและนำาตัวผู้กระทำาผิดมาดำาเนินคดี และต้องกำาหนดบทลงโทษ
                             และอายุความที่เหมาะสมและร้ายแรงของความผิด  โดยรัฐภาคีต้องปฏิบัติตามในข้อ

                             บทที่ ๑-๒๕ แม้ว่าประเทศไทยยังอยู่ในระหว่างกระบวนการให้สัตยาบันเพื่อเข้าเป็น

                             ภาคี ซึ่งทำาให้อนุสัญญาฯ ยังไม่มีผลใช้บังคับกับประเทศไทยได้ แต่รัฐบาลก็จะต้อง
                             ไม่กระทำาการใด ๆ ที่เป็นการขัดต่อสาระและความมุ่งประสงค์ (Objects and Purposes)
                             ของอนุสัญญาดังกล่าว



                              ๑.๓) ข้อเสนอแนะจากกระบวนการ UPR ที่ประเทศไทยรับมาปฏิบัติ


                                    ๑. การเข้าเป็นภาคีกฎหมายระหว่างประเทศด้านสิทธิมนุษยชน

                                    ข้อ ๓  การศึกษาความเป็นไปได้ในการให้สัตยาบันอนุสัญญาว่าด้วยการคุ้มครอง
                              บุคคลทุกคนจนการหายสาบสูญโดยถูกบังคับ อนุสัญญาว่าด้วยการคุ้มครองสิทธิของ
                              แรงงานโยกย้ายถิ่นฐานและสมาชิกครอบครัว พิธีสารเลือกรับ ฉบับที่ ๑ และฉบับที่ ๒

                              ของกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง พิธีสารเลือกรับของ

                              กติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิทางเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม พิธีสารเลือกรับ
                              ของอนุสัญญาว่าด้วยการต่อต้านการทรมาน และพิธีสารเลือกรับของอนุสัญญาว่าด้วย
                              สิทธิคนพิการ

                                    ข้อ ๔  การให้สัตยาบันหรือภาคยานุวัติตามความเหมาะสมต่ออนุสัญญาว่าด้วย

                              การคุ้มครองบุคคลทุกคนจากการหายสาบสูญโดยถูกบังคับ




                    ๘   ประเทศไทยยังไม่ได้เข้าเป็นภาคีอนุสัญญาฯ แต่ได้แสดงเจตนารมณ์ที่จะเข้าเป็นภาคีโดยได้ลงนามในอนุสัญญาฯ ไปแล้ว  เมื่อวันที่
                       ๙ มกราคม ๒๕๕๕
   36   37   38   39   40   41   42   43   44   45   46