Page 193 - รายงานการประเมินสถานการณ์สิทธิมนุษยชนในประเทศไทยและรายงานผลการปฏิบัติงานประจำปี 2557
P. 193
192 รายงานการประเมินสถานการณ์สิทธิมนุษยชนในประเทศไทย และรายงานผลการปฏิบัติงานประจำาปี ๒๕๕๗
๘๓
หรือศาลปกครองหรือฟ้องคดีต่อศาลยุติธรรม เพื่อทำาหน้าที่กลั่นกรองและเสนอความเห็นเกี่ยวกับ
เรื่องร้องเรียนที่ขอให้ กสม. เสนอเรื่องหรือฟ้องคดีต่อศาล
ต่อมา คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้มีประกาศฉบับที่ ๑๑/๒๕๕๗ ลงวันที่ ๒๒
พฤษภาคม ๒๕๕๗ เรื่อง การสิ้นสุดของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ให้รัฐธรรมนูญแห่ง
ราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๕๐ สิ้นสุดลง ยกเว้น หมวด ๒ โดยให้องค์กรอิสระและองค์กรอื่น
ตามรัฐธรรมนูญ พุทธศักราช ๒๕๕๐ ยังคงปฏิบัติหน้าที่ต่อไป ดังนั้น กสม. ซึ่งเป็นองค์กรอื่นตาม
รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๕๐ มาตรา ๒๕๖ จึงยังคงปฏิบัติหน้าที่ต่อไป
ตามประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติฉบับดังกล่าว โดยการปฏิบัติหน้าที่ย่อมเป็นไปตามที่
พระราชบัญญัติคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๒ กำาหนดไว้ แต่เนื่องจาก
ร่างพระราชบัญญัติคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ พ.ศ. .... ที่ปรับปรุงแก้ไขให้ กสม. มีอำานาจ
หน้าที่ครบถ้วนตามที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๕๐
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การแก้ไขเพิ่มเติมให้มีอำานาจหน้าที่เกี่ยวกับการพิจารณาคำาร้องที่ผู้ร้องขอให้ กสม.
เสนอเรื่องพร้อมด้วยความเห็นต่อศาลรัฐธรรมนูญ ศาลปกครอง หรือศาลยุติธรรม ยังอยู่ระหว่าง
กระบวนการทางนิติบัญญัติ ดังนั้น การสิ้นสุดลงของรัฐธรรมนูญตามประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
จึงมีผลให้ กสม. ไม่มีอำานาจหน้าที่โดยตรงในการเสนอเรื่องหรือฟ้องคดีต่อศาลในเรื่องที่ประชาชน
มีคำาร้องขอให้เสนอเรื่องหรือฟ้องคดีต่อศาลได้อีกต่อไป แต่ทั้งนี้ เพื่อประโยชน์ในการส่งเสริมและคุ้มครอง
สิทธิมนุษยชนของผู้ร้องในคำาร้องด้านคดีสิทธิมนุษยชน กสม. จึงได้มีคำาสั่งแต่งตั้งคณะอนุกรรมการ
๘๔
ด้านคดีสิทธิมนุษยชนและมาตรฐานการคุ้มครองสิทธิมนุษยชน โดยให้คณะอนุกรรมการ
ยังคงมีอำานาจหน้าที่ในการพิจารณาคำาร้องด้านคดีสิทธิมนุษยชนเพื่อจัดทำาข้อเสนอแนะเชิง
นโยบายไปยังบุคคลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการแก้ไขปัญหาเรื่องร้องเรียน แต่หากคำาร้องใด
สมควรนำาไปสู่การเสนอเรื่องและฟ้องคดีต่อศาล จะพิจารณามอบหมายให้สำานักงาน กสม. จัด
พนักงานคดีช่วยเหลือการจัดทำาคำาฟ้องและเอกสารเกี่ยวกับคดี เพื่อให้ผู้ร้องยื่นฟ้องหรือดำาเนินคดี
ในนามของผู้ร้องโดยตรงต่อไป รวมทั้งให้คณะอนุกรรมการฯ มีอำานาจหน้าที่ตรวจสอบคำาร้องที่ขอให้
ตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชนด้วย
๘๓ คำาสั่ง กสม. ที่ ๕๖/๒๕๕๕ ลงวันที่ ๒๘ กันยายน ๒๕๕๕ และที่ ๕๕/๒๕๕๖ ลงวันที่ ๒๙ กันยายน ๒๕๕๖
๘๔ คำาสั่ง กสม. ที่ ๑๔/๒๕๕๗ ลงวันที่ ๑๑ มิถุนายน ๒๕๕๗ และ ที่ ๓๖/๒๕๕๗ ลงวันที่ ๒๙ กันยายน ๒๕๕๗