Page 134 - รายงานการประเมินสถานการณ์สิทธิมนุษยชนในประเทศไทยและรายงานผลการปฏิบัติงานประจำปี 2557
P. 134
รายงานการประเมินสถานการณ์สิทธิมนุษยชนในประเทศไทย และรายงานผลการปฏิบัติงานประจำาปี ๒๕๕๗ 133
แพทย์ของรัฐยังไม่ทั่วถึง การให้บริการอุปกรณ์/เครื่องช่วยความพิการและการฟื้นฟูคนพิการมีจำากัด
ในโรงพยาบาลเพียงบางแห่งเท่านั้น รวมถึงการขาดความเชี่ยวชาญในการรักษาความพิการมากพอ
การขาดงบประมาณสำาหรับการจัดบริการฟื้นฟูให้คนพิการที่บ้าน และให้บริการพื้นฐานอื่นที่จำาเป็นสำาหรับ
การดำารงชีวิตอิสระของคนพิการ
๒.๒) สถานการณ์สิทธิมนุษยชน และการดำาเนินการของ กสม.
ปัญหาสิทธิมนุษยชนทั่วไปที่พบในกลุ่มของผู้สูงอายุ คนพิการ และการสาธารณสุขนั้น
นอกจากการถูกละเมิดสิทธิที่เกิดขึ้นกลุ่มบุคคลดังกล่าวโดยตรงแล้ว ยังมีปัญหาที่ยังเป็นการเลือกปฏิบัติ
้
ซำาซ้อน เช่น กรณีของผู้สูงอายุที่เป็นสตรี คนพิการ หรือคนพิการที่เป็นคนชายขอบหรือชนกลุ่มน้อย
ตลอดจนทัศนคติของสังคมในเชิงลบที่เป็นการตีตราที่ทำาให้บุคคลเหล่านั้นไม่สามารถอยู่ร่วมในสังคมได้
อย่างปกติ ๗๑
ในส่วนของผู้สูงอายุ พระราชบัญญัติผู้สูงอายุ พ.ศ. ๒๕๔๖ ได้รับรองสิทธิของ
ผู้สูงอายุในด้านต่าง ๆ ไว้ เช่น สิทธิได้รับการบริการทางการแพทย์และการสาธารณสุขโดยสะดวกและ
รวดเร็ว สิทธิได้รับบริการด้านการศึกษา การศาสนา และข้อมูลข่าวสารที่เป็นประโยชน์ สิทธิได้รับบริการ
ด้านการประกอบอาชีพหรือฝึกอาชีพที่เหมาะสม สิทธิในการพัฒนาตนเองและการมีส่วนร่วมในกิจกรรม
ทางสังคม สิทธิได้รับการอำานวยความสะดวกและความปลอดภัยในอาคาร สถานที่ ยานพาหนะหรือ
การบริการสาธารณะ สิทธิในการได้รับการช่วยเหลือในกรณีถูกทารุณกรรมหรือถูกแสวงหาประโยชน์
โดยมิชอบด้วยกฎหมายหรือถูกทอดทิ้ง สิทธิได้รับบริการการจัดที่พักอาศัย อาหาร และเครื่องนุ่งห่ม
ตามความจำาเป็นอย่างทั่วถึง สิทธิได้รับการสงเคราะห์เบี้ยยังชีพตามความจำาเป็นอย่างทั่วถึงและเป็นธรรม
แต่ในทางปฏิบัติพบว่า สภาพการดำารงชีวิตของผู้สูงอายุจำานวนมากมีคุณภาพไม่ได้มาตรฐานที่เหมาะสม
ส่วนหนึ่งมาจากปัญหาของการขาดหลักประกันทางเศรษฐกิจที่รัฐพึงจัดหาให้ แม้ว่าเมื่อเข้าสู่วัยผู้สูงอายุ
รัฐจะจัดสรรเบี้ยผู้สูงอายุให้เดือนละ ๖๐๐-๑,๐๐๐ บาท ตามช่วงอายุแบบขั้นบันได แต่เมื่อเปรียบเทียบ
ค่าครองชีพที่สูงขึ้นกับเบี้ยยังชีพที่ได้รับแล้ว ยังไม่เหมาะสมกับสภาพการณ์เศรษฐกิจ ทำาให้ผู้สูงอายุขาด
ความมั่นคงทางเศรษฐกิจ แม้ว่าจะประเทศจะมีพระราชบัญญัติกองทุนการออมแห่งชาติ ตั้งแต่ปี ๒๕๕๔
เพื่อส่งเสริมการออมทรัพย์ของประชาชนที่จะเป็นหลักประกันทางเศรษฐกิจเมื่อเข้าสู่วัยผู้สูงอายุ แต่รัฐบาล
ยังไม่ได้นำามาปฏิบัติให้เกิดผล
หลักประกันทางเศรษฐกิจของผู้สูงอายุยังเชื่อมโยงกับเรื่องการเกษียณอายุ เพราะจะ
ทำาให้ผู้สูงอายุมีรายได้ลดลง ดังนั้น การออกจากงานเมื่อครบอายุเกษียณ ๖๐ ปี ทำาให้ผู้สูงอายุมีรายได้
ลดลง ซึ่งมีผลกระทบต่อคุณภาพของการดำารงชีพ รวมถึงความสามารถที่จะมีชีวิตอย่างเป็นอิสระโดยไม่
ต้องพึ่งพิงครอบครัว บุตรหลาน โดยเฉพาะผู้สูงอายุบางรายยังสามารถทำางานต่อได้อย่างมีประสิทธิภาพ
๗๑ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ “การเลือกปฏิบัติซำาซ้อน” (Multiple discrimination) และ “การสอดประสาน” (intersection-
้
ality) ของอัตลักษณ์บุคคล, <ww.socialdifference.columbia.edu> เข้าดูเมื่อวันที่ ๑๙ พฤษภาคม ๒๕๕๘