Page 156 - ประมวลรายงานผลการพิจารณาเพื่อเสนอแนะนโยบายและข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมาย และกฎของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ : เล่ม 2 ระหว่าง มกราคม - มิถุนายน 2558
P. 156
154 ประมวลรายงานผลการพิจารณาเพื่อเสนอแนะนโยบายหรือข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมาย และกฎ
ของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เล่ม ๒ ระหว่าง มกราคม – มิถุนายน ๒๕๕๘
ร่างพระราชบัญญัติกองทุนคุ้มครอง ร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้เสียหาย
หัวข้อ ผู้ได้รับผลกระทบจากการบริการ จากการรับบริการสาธารณสุข พ.ศ. ....
สาธารณสุข พ.ศ. ....
การจ่ายเงินชดเชย มาตรา ๒๗ ในกรณีที่คณะอนุกรรมการ มาตรา ๒๕ ในกรณีที่คณะอนุกรรมการ
ประเมินเงินชดเชยหรือคณะอนุกรรมการ พิจารณาเงินชดเชยหรือคณะอนุกรรมการ
พิจารณาเงินชดเชยประจำาจังหวัดได้กำาหนด พิจารณาเงินชดเชยประจำาจังหวัดได้กำาหนด
จำานวนเงินชดเชยแล้ว หากผู้ได้รับผลกระทบ จำานวนเงินชดเชย หากผู้เสียหายหรือทายาท
หรือทายาทรับเงินชดเชยไปบางส่วนแล้ว รับเงินชดเชยไปบางส่วนแล้ว หรือไม่ตกลง
หรือไม่ตกลงยินยอมรับเงินชดเชย และจะ ยินยอมรับเงินชดเชย และได้ฟ้องผู้ให้บริการ
ฟ้องคดีต่อศาล ในกรณีนี้ ผู้ได้รับผลกระทบ สาธารณสุขหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการ
หรือทายาทอาจฟ้องกองทุนได้โดยตรง เกิดความเสียหายเป็นคดีต่อศาล ให้สำานักงาน
แต่จะฟ้องผู้ซึ่งก่อให้เกิดผลกระทบหรือ ยุติการดำาเนินการตามพระราชบัญญัตินี้ และ
หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการเกิดผลกระทบ ผู้เสียหาย หรือทายาทไม่มีสิทธิที่จะยื่นคำาขอ
ไม่ได้และให้สำานักงานยุติการดำาเนินการ ตามพระราชบัญญัตินี้อีก
ตามพระราชบัญญัตินี้ และผู้ได้รับผลกระทบ หากศาลได้มีคำาพิพากษาหรือคำาสั่งถึงที่สุด
หรือทายาท ไม่มีสิทธิที่จะยื่นคำาขอตาม ยกฟ้องโดยไม่ได้วินิจฉัยว่า ผู้ให้บริการ
พระราชบัญญัตินี้อีก ให้สำานักงานทำารายงาน สาธารณสุขหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับ
การจ่ายเงินชดเชยส่งไปยังศาลที่พิจารณาคดี ความเสียหายไม่ต้องรับผิดคณะอนุกรรมการ
ที่กองทุนถูกฟ้องคดี พิจารณาเงินชดเชยหรือคณะอนุกรรมการ
พิจารณาเงินชดเชยประจำาจังหวัดอาจพิจารณา
จ่ายเงินชดเชยให้แก่ผู้เสียหายหรือไม่ก็ได้ ทั้งนี้
ตามระเบียบที่คณะกรรมการกำาหนด
การจ่ายเงินชดเชย - มาตรา ๒๗ ในกรณีที่มีความเสียหายปรากฏขึ้น
ภายหลังการทำาสัญญาประนีประนอมยอม
ความตามมาตรา ๒๔ โดยผลของสารที่สะสม
อยู่ในร่างกายของผู้เสียหาย หรือเป็นกรณีที่
ต้องใช้เวลาในการแสดงอาการให้ผู้เสียหาย
มีสิทธิยื่นคำาร้องขอรับเงินชดเชยตาม
พระราชบัญญัตินี้ภายในสามสิบวันนับแต่วันที่
ได้รู้ถึงความเสียหาย แต่ทั้งนี้ ต้องไม่เกิน
สิบปีนับแต่วันที่เกิดความเสียหายอันปรากฏขึ้น
ภายหลัง ในกรณีเช่นว่านี้ ให้สำานักงานหรือ
หน่วยงานหรือองค์กรที่สำานักงานกำาหนด
แล้วแต่กรณี ส่งคำาขอดังกล่าวให้
คณะอนุกรรมการพิจารณาเงินชดเชย หรือ
คณะอนุกรรมการพิจารณาเงินชดเชยประจำา
จังหวัด ภายในเจ็ดวันนับแต่วันที่ได้รับคำาขอ
โดยนำามาตรา ๒๓ มาตรา ๒๔ และมาตรา ๒๕
มาใช้บังคับโดยอนุโลม
