Page 483 - รายงานผลการศึกษาวิจัย ฉบับสมบูรณ์ โครงการศึกษาวิจัยเพื่อการปรับปรุงแก้ไขนโยบายกฎหมายที่ละเมิดสิทธิมนุษยชนด้านที่ดินและป่า
P. 483
เนื่องจากคณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวันที่ 10 และวันที่ 17 มีนาคม 2535 เห็นชอบในการจําแนก
่
่
เขตการใช้ประโยชน์ทรัพยากรและที่ดินปาไม้ ในพื้นที่ปาสงวนแห่งชาติ พร้อมทั้งกําหนดหลักเกณฑ์
่
วิธีการ มาตรการการใช้ประโยชน์ และแนวทางปฏิบัติงานการใช้ประโยชน์ทรัพยากรและที่ดินปาไม้
่
ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ โดยจําแนกพื้นที่ปาสงวนแห่งชาติ ออกเป็น 3 เขต ได้แก่
่
่
่
เขตพื้นที่ปาเพื่อการเกษตรกรรม Zone A เขตพื้นที่ปาเพื่อการเศรษฐกิจ Zone E และเขตพื้นที่ปาเพื่อ
่
่
่
การอนุรักษ์ Zone C โดยให้กรมปาไม้ส่งมอบพื้นที่ปาสงวนแห่งชาติที่กําหนดเป็นเขตพื้นที่ปาเพื่อการ
เกษตรกรรม Zone A ให้สํานักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) ไปดําเนินการปฏิรูปที่ดิน
่
ให้แก่เกษตรกร ต่อมาได้มีมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม 2536 ให้นําพื้นที่ปาสงวน
่
แห่งชาติที่กําหนดให้เป็นเขตพื้นที่ปาเพื่อการเศรษฐกิจ Zone E ที่เสื่อมสภาพมีราษฎรครอบครองทํา
่
่
กินส่งมอบให้สํานักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) ซึ่งกรมปาไม้ได้มอบพื้นที่ปาสงวน
่
แห่งชาติที่กําหนดให้เป็นเขตพื้นที่ปาเพื่อการเศรษฐกิจ Zone E ให้สํานักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อ
่
เกษตรกรรม (ส.ป.ก.) ไปก่อนสิ้นปี 2536 เนื้อที่ประมาณ 44 ล้านไร่ โดยมอบไปทั้งปา (ยกเว้นพื้นที่ปา ่
่
่
สงวนแห่งชาติที่กําหนดให้เป็นเขตพื้นที่ปาเพื่อการอนุรักษ์ Zone C) และบริเวณที่ยังเป็นปาสมบูรณ์
รวมอยู่ด้วย
่
่
ดังนั้นเพื่อให้การปฏิบัติงานเกี่ยวกับการกันพื้นที่ปาสงวนแห่งชาติที่กรมปาไม้ได้มอบให้
่
สํานักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) นําไปปฏิรูปที่ดินกลับคืนกรมปาไม้เป็นไปตามนัย
มติที่ประชุมเรื่อง แนวทางปฏิบัติงานการดําเนินการปฏิรูปที่ดินตามนโยบายรัฐบาล เมื่อวันอังคารที่ 15
่
่
สิงหาคม 2538 ณ ห้องประชุม 2 กรมปาไม้ กรมปาไม้และสํานักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม
่
(ส.ป.ก.) จึงมีการลงนามใน “บันทึกข้อตกลงระหว่างกรมปาไม้และสํานักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อ
่
่
เกษตรกรรม (ส.ป.ก.) ว่าด้วยแนวทางการปฏิบัติในการกันพื้นที่ปาสงวนแห่งชาติกลับคืนกรมปาไม้
พ.ศ. 2538” เมื่อวันที่ 14กันยายน 2538 โดยสาระสําคัญก็คือการกันพื้นที่ที่ไม่สมควรจะนําไปปฏิรูป
่
ที่ดินออกก่อน เพื่อส่งมอบพื้นที่ส่วนที่กันออกนี้ให้กรมปาไม้ดําเนินการสงวนรักษาไว้ต่อไป และเพื่อให้
สามารถดําเนินการเป็นไปตามบันทึกข้อตกลงดังกล่าว จึงสมควรกําหนดสาระแนวทางการปฏิบัติเรื่อง
่
เกี่ยวกับการตรวจสอบการกันพื้นที่ปาสงวนแห่งชาติที่ไม่สมควรจะนําไปปฏิรูปที่ดินไว้เป็นแนวทางการ
ดําเนินงานต่อไป ดังนี้
1. พื้นที่ที่ไม่สมควรจะนําไปปฏิรูปที่ดิน ซึ่งจะต้องดําเนินการกันออก ได้แก่ พื้นที่
ดังต่อไปนี้
่
่
่
1.1 พื้นที่ที่มีสภาพเป็นปา เป็นพื้นที่ปาสงวนแห่งชาติที่มีสภาพปาไม้ ไม่ว่าจะมี
ขนาดเนื้อที่มากน้อยเพียงใดก็ตาม สมควรสงวนไว้เพื่อรักษาสภาพแวดล้อมและระบบนิเวศ
่
1.2 พื้นที่ที่มีสภาพหรือศักยภาพทําการเกษตรไม่คุ้มค่า เป็นพื้นที่ปาสงวนแห่งชาติ
ที่มีสภาพของพื้นที่ไม่เหมาะสมจะทําการเกษตร เช่น ดินหินโผล่ ดินลูกรัง หน้าดินตื้น นํ้าท่วมขังเกือบ
ตลอดปี (6 เดือนขึ้นไป) พื้นที่แหล่งนํ้าและทรัพยากรธรณี
8‐48