Page 270 - รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์ โครงการศึกษาวิจัยสาเหตุการละเมิดสิทธิมนุษยชนในกระบวนการยุติธรรมของเจ้าหน้าที่ตำรวจ
P. 270
ตารางวิเคราะห์ข้อมูลที่เจ้าหน้าที่ต ารวจละเมิดสิทธิมนุษยชนจ านวน 109 คดี
ความเห็นคณะกรรมการสิทธิฯ ความเห็นของคณะผู้วิจัย
พฤติการณ์โดยย่อ (ผู้วิจัยสรุป)
ข้อเสนอแนะของผู้
ความเห็นผู้ตรวจสอบ ความเห็น ประเภทที่ละเมิด สาเหตุการละเมิด
ตรวจสอบ
โดยผู้กองณัฐพร้อมพวกมีพฤติการณ์ในลักษณะที่ได้เข้าไปควบคุม เห็นว่าการกระทําดังกล่าวมีลักษณะ - 1.เห็นว่าการจับของเจ้าพนักงาน 1. การจับ 1.1 เจตนาหรือ
ตัวผู้ที่ตนคิดว่าครอบครองยาเสพติดแล้วทําการบังคับให้รับ เป็นการละเมิดต่อสิทธิมนุษยชน ตํารวจเป็นการจับโดยมิชอบด้ยกฎ จงใจ หรือลุแก่
สารภาพในลักษณะทารุณโหดร้ายเช่น การใช้ไฟฟ้าช๊อตอวัยวะของ อย่างเห็นได้ชัดและยังเป็นการใช้ หมาย ส่วนการทําร้ายร่างกายโดย อํานาจหรือใช้
ผู้เสียหายและการใช้ถุงพลาสติกครอบหัวและรัดคอเพื่อไม่ให้มี อํานาจเกินขอบเขตของที่กฏหมาย ใช้ไฟฟ้าช๊อตอวัยวะของผู้เสียหาย อํานาจเกิน
อากาศหายใจรวมทั้งการชกต่อยในลักษณะรุมทําร้ายจนทําให้ ให้อํานาจไว้อีกด้วยซึ่ง และใช้ถุงพลาสติกครอบหัวและรัด ขอบเขต ไม่
ผู้เสียหายส่วนใหญ่มีอาการบาดเจ็บสาหัสและผู้เสียหายบางคนก็ คณะกรรมการมีมติให้เจ้าพนักงาน คอเพื่อไม่ให้มีอากาศหายใจรวมทั้ง ปฏิบัติหน้าที่
โดนรีดไถเงินเพื่อแลกกับการปล่อยตัว ดังกล่าวผิดฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิ การชกต่อยในลักษณะรุมทําร้าย
ชอบและร่วมกันทําร้ายร่างกายผู้อื่น เพื่อบังคับให้รับสารภาพ ไม่มี ตามกฎหมาย
ให้ได้รับอันตรายแก่กานและจิตใจ บทบัญยัติของกฎหมายให้กระทําได้ 2. ทําร้ายร่างกาย 2.1 เจตนาหรือ
รวมทั้งเป็นเหตุให้ได้รับอันตราย 2. การทําร้ายร่างกาย และทรมาน จงใจ หรือลุแก่
สาหัสด้วย รวมทั้งฆ่าและพยายาม ดังกล่าวนั้น ถือเป็นการละเมิดสิทธิ อํานาจหรือใช้
ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน มนุษยชน อํานาจเกิน
ขอบเขต ไม่
ปฏิบัติหน้าที่
ตามกฎหมาย
1.เมื่อวันดังกล่าว ได้มีเจ้าหน้าที่ตํารวจ มาพบผู้ร้องและได้ขอเชิญตัวผู้ร้อง โดยคณะกรรมการฯมีความเห็นว่า - 1.การท าร้ายร่างกายเพื่อให้ผู้ต้องหา 1. ท าร้ายร่างกาย 1.1 เจตนาหรือจง
ไปที่สภ.เพื่อให้ข้อมูลกรณีการลักพาตัวเด็กจาก รพ.ลพบุรี และ เจ้าหน้าที่ตํารวจได้มีการกระทํา ให้รับการสารภาพหรือการขยายผล ใจ หรือลุแก่
2.ต่อมา จนท.ตร.ก็ได้บังคับให้ผู้ร้องยอมรับสารภาพโดยขู่ว่าถ้าไม่ยอมจะ ตามที่ผู้ร้องกล่าวอ้างจริงเนื่องจาก ในการจับกุม เป็นเหตุให้ผู้ร้อง อ านาจหรือใช้
จับมารดาเข้าคุกด้วย ผู้ร้องเห็นดังนั้นจึงกลัวมารดาติดคุกจึงยอมรับสารภาพ มีหลักฐานยืนยันจากแพทย์ ได้รับอันตรายสาหัสเป็นความผิด อ านาจเกินขอบเขต
3.ต่อมา จนท.ตร.จึงได้พาผู้ร้องไปตามหาเด็กแต่ก็ไม่พบ ดังนั้นต่อมาได้มี ประกอบกับผู้ร้องยืนยันว่าจําหน้าได้ ตาม ป.อ. มาตรา 297 ไม่ปฏิบัติหน้าที่
จนท.ตร.นายหนึ่งซึ่งไม่ได้อยู่สภ.เมืองอุดรฯได้มาหาผู้ร้องและได้ใช้รองเท้า
ตบหน้าผู้ร้องอย่างแรง 3 ที และได้ถามว่าผู้ร้องนําเด็กไปซ่อนไว้ที่ไหนซึ่งผู้ ตามกฎหมาย
ร้องไม่ทราบ
4.หลังจากนั้นก็ได้พาผู้ร้องนั่งรถยนต์ออกจากเขตอุดรโดยในขณะเดินทางก็
ได้มีจท.ตรอีกนายหนึ่งใช้โทรศัพท์มือถือตบหน้าผู้ร้องอีกหลายครั้งซึ่งผู้ร้อง
ไม่รู้จักชื่อแต่จําหน้าได้